พระอาจารย์กล่าวว่า “ระยะนี้เขาเตรียมตัวจะประท้วงรัฐบาลกัน อาตมาสังเกตแล้วเป็นการปะทะสังสรรค์ของคนสองวัย ก็คือวัยรุ่นกับวัยร่วง วัยรุ่นนี่ต้องบอกว่าฮอร์โมนล้นเกิน ส่วนวัยร่วงนี่ก็คือฮอร์โมนกำลังขาด ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สองรุ่นนี้ไปด้วยกันได้ เพราะว่าคนยุคเก่าก็จะมองว่า “เฮ้อ...เด็กสมัยนี้” ส่วนเด็กรุ่นใหม่ก็ “ไดโนเสาร์แล้วปู่..!”
เพียงแต่ว่าถ้าเรารู้จักดูดี ๆ จะเห็นว่าทั้งสองรุ่นนั้น ความจริงแล้วควรที่จะต้องหันหน้าเข้าหากัน เพราะว่าเด็กวัยรุ่นพลังงานกำลังเหลือเฟือ ทำอะไรก็ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ส่วนคนแก่นั้นประสบการณ์เหลือเฟือ ผ่านชีวิตมามาก ผ่านโลกมามาก บางอย่างเด็กวัยรุ่นยังไม่เคยผ่านมาก่อน ต้องลองผิดลองถูก แต่ถ้าหากว่าได้ประสบการณ์จากผู้ใหญ่ ก็ไม่ต้องเสียเวลาไปลองผิดลองถูกกับใคร สามารถเข้าสู่การปฏิบัติงานจริงได้เลย
ดังนั้น..ทำอย่างไรที่จะหาตัวเชื่อมคนทั้งสองรุ่นนี้เข้าหากันได้ ซึ่งก็คงต้องหาผู้ใหญ่ในแผ่นดินซึ่งเป็นที่เชื่อถือ แต่ว่าสมัยนี้ก็หายาก ลองไปนึกถึงตอนที่พลตรีจำลอง ศรีเมือง พาคนประท้วงพลเอกสุจินดา คราประยูร แล้วมีในหลวงรัชกาลที่ ๙ ออกมาเตือนสติทั้งสองฝ่าย ว่าถ้าทำอย่างนี้ต่อไป ใครจะแพ้ใครจะชนะนั้นไม่สำคัญแล้ว เพราะว่าที่แพ้ที่สุดก็คือประเทศชาติที่เสียหายล่มจมไป
เพราะฉะนั้น..บุคคลที่มีแนวคิดที่แหลมคม มีความสามารถที่จะหลอมรวมคนสองวัย และมีบารมีเพียงพอที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายหันหน้าเข้าหากันได้นั้น ตอนนี้ยังหายากอยู่”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-10-2020 เมื่อ 13:39
|