คราวนี้เรามาพิจารณาเนื้อหา ท่านบอกว่า สุทธะสีลัง สะมาทายะ ให้รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร ให้ปฏิบัติในธรรมะอันสุจริต ก็คือ กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา ด้วยอานุภาพอันนี้แหละ ก็เลยทำให้เทวดาอย่างท่านมัฏฐกุณฑลีเทพบุตรประสบความสุขอย่างที่หวังเอาไว้
คราวนี้เรามาดู ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ เป็นคำสอนนะ ถ้าตัดสินใจทำเมื่อไรจึงจะได้ ไม่ใช่สวดเฉย ๆ แล้วก็อายุยืนต่อไปได้ ปะเรสัง เทสะนัง สุตตะวา เมื่อได้รับฟังซึ่งพระเทศนานี้แล้ว ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ ก็เลยอายุยืนนานต่อไป เพราะว่าตั้งใจปฏิบัติตาม ถ้าหากยึดเป็นธัมมานุสติ มีอานิสงส์มากอยู่ แต่ถ้าสวดเฉย ๆ หวังจะต่ออายุ คงจะต่อได้นิดเดียว เพราะว่าทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านสอนมา ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ให้เราปฏิบัติตามทั้งนั้น
เหมือนอย่างที่พระท่านให้พร อภิวาทนสีลิสฺส นิจํ บุคคลผู้มีปกติอ่อนน้อม กราบไหว้ผู้ทรงศีลนั้น วุฑฺฒาปจายิโน จตฺตาโร ธมฺมา วฑฺฒนฺติ ย่อมเป็นผู้เจริญด้วยธรรมทั้ง ๔ ประการ คือ อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ ท่านสอนให้เราอ่อนน้อมกราบไหว้ผู้ทรงศีลจะได้มีความเจริญ ไม่ใช่ใส่บาตรเสร็จก็สาธุ ไม่ได้รู้ว่าท่านให้อะไร ความจริงพระท่านสอนอยู่ตลอด เพียงแต่ว่าถ้าไม่มีพื้นฐานภาษาบาลีก็แปลไม่ออกเหมือนกัน
ถาม : อย่างนี้ถ้าเรายังปฏิบัติตามไม่ได้ แต่น้อมใจตามบทสวด
ตอบ : ได้เป็นอนุสติ ถ้ายิ่งน้อมจิตด้วยความเลื่อมใส ว่าไม่มีอะไรเหนือยิ่งกว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อีกแล้ว จะกลายเป็นขลังเลย เพราะใจเรายึดมั่นจริง ๆ จึงได้บอกว่า ระยะหลังนี้เขาสวดเอาขลังกันเยอะ แต่ว่าหลักการปฏิบัติจริง ๆ เรามองข้ามไป จะไปตำหนิก็ไม่ได้เพราะเขาแปลกันไม่ออกจริง ๆ
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2014 เมื่อ 16:06
|