หลายท่านคงเคยได้ยินหลวงพ่อพูดประโยคหนึ่งอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คือ "จงวางตัวให้เป็นผู้ใหม่อยู่เสมอ"
"จงวางตัวให้เป็นผู้ใหม่อยู่เสมอ ...ให้มีความเกรงใจเหมือนรู้จักกันใหม่ ๆ ..พวกที่ถือว่าเป็นญาติเป็นคนสนิทแล้วทำอะไรไม่เกรงใจ....ระวังจะโดนเข้าสักวัน
การจะขออนุญาตก็ต้องขอก่อนทำ..ไอ้ที่ทำแล้วมาขอ....นั่นมันไม่มีมารยาท ทำแล้วค่อยมาบอก....มันคือผู้ใหญ่มาบอกกล่าวเด็กให้รู้ แก่แล้วก็ให้มันรู้จักคิดกันบ้าง....ไม่ใช่แก่แล้วแก่เลย ไม่มีอะไรพัฒนาขึ้นเลยสักอย่าง
พวกเรานี่พอไม่โดนด่าแล้วมันไม่รู้จักคิด ไม่รู้จักมีมารยาทกันเลย อย่างพวกเอาซองที่อื่นมาเรี่ยไรนี่ก็เหมือนกัน มันไม่เคยรู้ตัวเลยว่าทำอย่างนี้มันไม่มีมารยาท มันเห็นเราไม่ว่าอะไรก็ยิ่งเอาใหญ่ จำเอาไว้เลยนะว่างานของที่หนึ่งอย่าเอามาปะปนกับงานอีกที่หนึ่ง ถ้าไปทำอย่างนี้ที่อื่นเขาจะเคืองเอาว่าทำให้เขาเสียรายได้.....ถึงพระจะไม่เคืองแต่ลูกศิษย์ลูกหาเขามีเขาจะเคือง..บาดหมางใจกันเปล่า ๆ
จริง ๆ แล้วหลวงพ่อ(ฤๅษี)ท่านอายุขัยยังอีกตั้งนาน แต่ก็เพราะไอ้ลูกศิษย์ที่ไม่รู้จักคิดไม่รู้จักพัฒนา ตัวเองนี่แหละ ท่านเลยไม่รู้จะแบกสังขารแบกโรคไปทำไม..อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์..ไปดีกว่า"
บางรายตั้งใจสร้างวัตถุมงคลมาถวายพระอาจารย์ แต่ไม่ได้บอกกล่าวท่านก่อน มาบอกเอาตอนเสร็จแล้ว ท่านก็พูดว่า "ส่วนใหญ่เป็นเหมือนกันหมด สร้างเสร็จแล้วค่อยมาบอก จะด่าแม่มัน แม่ของมันก็ยังไม่รู้เรื่องเลย..! "
ดังนั้น ก็คือ จะทำอะไรควรพินิจพิจารณาให้รอบคอบและกราบเรียนขออนุญาตจากท่านก่อนจะดีกว่าค่ะ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
|