ดังนั้น..สิ่งที่ญาติโยมทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรของเราจะลืมไม่ได้เลยก็คือ ในแต่ละวันพยายามมองความทุกข์ให้เห็น พยายามที่จะปลดใจตนเองออกมาจากร่างกาย และโลกนี้ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ทีละเล็กทีละน้อย ค่อย ๆ ขัดเกลาไป ท้ายที่สุด เราก็สามารถที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้
ไม่เช่นนั้นถ้าท่านทั้งหลายโดนบังคับให้ทุกข์ ซึ่งต้องบอกว่าเป็น "รสชาติของชีวิต" ที่ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่านั้นอีกแล้ว เพราะว่าเราตั้งใจแต่ไม่ทำ ก็ต้องโดนเฆี่ยนตีเพื่อที่ให้เป็นไปตามที่เราตั้งใจเอาไว้
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ปกติแล้วก็จะไม่มีการนำมาบอกกล่าวกัน ปล่อยให้ท่านทั้งหลายไปงมหากันเอาเอง แต่ดูมาปีแล้วปีเล่าก็ยังงมหาไม่เจอ จึงต้องมาบอกกล่าวให้แก่ท่านทั้งหลายได้ทราบ จะได้ปฏิบัติให้ถูกทาง แล้วก็ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความทุกข์ยากลำบากที่ไม่มากจนเกินไปนัก
จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งเจริญพรให้ญาติโยมได้ทราบแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-07-2021 เมื่อ 01:39
|