ในเรื่องของปัญญานั้น เราต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ถ้าหากว่าเราตายไปแล้วต้องเกิดมาใหม่ทุกข์ยากเช่นนี้อีก ก็ถือว่าเราขาดทุน ดังนั้น..เราควรที่จะตั้งเป้าสูงสุดในชีวิตเอาไว้ที่พระนิพพาน
บุคคลที่จะไปพระนิพพานได้ ต้องประกอบไปด้วยความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างแน่นแฟ้นจริงจัง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เป็นผู้มีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์ตามฐานานุรูปแห่งตน และท้ายสุดรู้ตัวอยู่เสมอว่าต้องตาย ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ประกอบกรรมความดีทุกอย่าง ตั้งเป้าหมายไว้ที่พระนิพพานแห่งเดียว
ถ้าท่านทั้งหลายสามารถกระทำเช่นนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ก็ถือว่าไม่เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา เคยอยู่ใต้ร่มบารมีองค์พระมหากษัตริย์ผู้เป็นธรรมมิกราช อย่างในหลวงรัชกาลที่ ๙ ของเรามา คุณงามความดีทั้งหลายเหล่านี้ เราจะได้ถวายเป็นพระราชกุศล ให้สมกับที่วันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๓
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-12-2020 เมื่อ 16:16
|