ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 02-07-2021, 22:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,690 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ มีบางเรื่องที่อยากจะพูดเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน พระพุทธเจ้าของเราแบ่งบุคคลออกเป็น ๓ จำพวก ๔ ประเภท คำว่า ๓ จำพวก ก็คือ ดอกบัวพ้นน้ำ ดอกบัวปริ่มน้ำ และดอกบัวใต้น้ำ

ส่วนบุคคล ๔ ประเภทก็คือ อุคฆฏิตัญญู เป็นผู้ที่ฉลาดมาก ฟังแค่หัวข้อธรรมก็เข้าใจแจ่มแจ้ง

วิปจิตัญญู เป็นบุคคลที่ฟังหัวข้อธรรมแล้ว ต้องขบคิดต่อถึงจะเข้าใจแจ่มแจ้งได้

เนยยะ เป็นพวกที่ต้องเคี่ยวเข็ญ จ้ำชี้จ้ำไช ปากเปียกปากแฉะอยู่ทุกวัน

ส่วนประเภทสุดท้าย ท่านเรียก ปทปรมะ เป็นพวกฉลาดเกินไป ไม่ยอมรับความคิดคนอื่น ก็เลยทำให้ไม่สามารถเข้าถึงธรรมได้ ถ้าหากว่าเป็นทางนิกายเซนของญี่ปุ่น เขาเรียกว่าพวก "น้ำชาล้นถ้วย" เติมอะไรไม่ลง

แต่คราวนี้ทางด้านการทหาร เขาแบ่งบุคคลออกเป็นพวกฉลาดแล้วขยัน ฉลาดแล้วขี้เกียจ โง่แล้วขยัน กับ โง่แล้วขี้เกียจ

เขาสอนต่อ ๆ กันมาเลยว่า ถ้าพวกโง่แล้วขี้เกียจให้เอาไปอยู่แนวหน้ากับพวกฉลาดแล้วขยัน พวกฉลาดแล้วขยันจะลากถูลู่ถูกังไปได้เอง ส่วนพวกฉลาดแล้วขี้เกียจให้อยู่แนวหลัง คอยวางแผน ส่งไปให้พวกฉลาดแล้วขยันที่แนวหน้าปฏิบัติการ ส่วนไอ้พวกโง่แล้วขยัน เขาบอกว่าฆ่าทิ้งให้หมด...! เพราะว่ามีแต่จะสร้างความเดือดร้อนให้แก่หน่วยงาน วันนี้กระผม/อาตมภาพ เจอเรื่องโง่แล้วขยันหลายเรื่องด้วยกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2021 เมื่อ 01:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา