ดูแบบคำตอบเดียว
  #15  
เก่า 01-05-2022, 10:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,603 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปกติแล้วระเบียบประเพณีอะไรที่เห็นว่าไม่เข้าท่าเข้าทาง เมื่อเป็นเจ้าอาวาส กระผม/อาตมภาพก็โละทิ้งหมด สมัยก่อนทางวัดท่าขนุนจะมีงานประจำปีช่วงวันมาฆบูชา ทำบุญกัน ๓ วัน ๓ คืน มาถึงรุ่นอาตมาขี้เกียจมาก เลยทำวันเดียว ใครอยากจะทำอีก ๒ วันให้ไปทำเองที่บ้าน..!

แต่ว่างานนี้เป็นงานที่
กระผม/อาตมภาพเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี ได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ ก็เลยคงไว้ แล้วก็เป็นการผ่อนในส่วนของระเบียบวัด ที่ต้องให้มีทำวัตรเช้าเย็นรวมแล้ววันหนึ่งตั้ง ๓ รอบ พอวันที่ ๑๓ จึงให้เหลือแค่สวดมนต์เย็นเท่านั้น

แล้ววันที่ ๑๔ งานทำบุญ ก็จะถวายปัจจัยพระภิกษุสามเณร แล้วก็มีเงินประจำให้กับแม่ชี และฆราวาสที่อยู่ในวัด พูดง่าย ๆ ว่า "เป็นวันเงินเดือนออก" เพราะฉะนั้น..ทุกคนก็จะตั้งหน้าตั้งตารอวันที่ ๑๔ เพราะว่าเงินเดือนจะออก วัดท่าขนุนเงินเดือนออกสองรอบ คือรอบต้นเดือน กับรอบกลางเดือน เหตุที่ทำอย่างนั้น เผื่อว่าใครอยากซื้อหวย จะได้มีเงินไปซื้อ..! แต่อย่าให้เจ้าอาวาสรู้ ถ้าเจ้าอาวาสรู้ มีสิทธิ์โดนทันที..!

วันนี้ก็เลยเหลือแค่สวดมนต์เย็น คราวนี้เราต้องเข้าใจว่าการใช้ภาษานั้น เขามีระเบียบแบบแผนอยู่ว่า ถ้าเจริญพระพุทธมนต์ก็คืองานมงคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบวช งานแต่ง งานขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญต่ออายุ งานถวายสังฆทานอะไร ก็ใช้ว่าเจริญพระพุทธมนต์

แต่ถ้างานที่เกี่ยวข้องด้วยผู้ตาย ไม่ว่าจะเป็นทำบุญ ๗ วัน ๑๕ วัน ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน ทำบุญครบรอบปี เขาจะใช้คำว่า สวดพระพุทธมนต์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-05-2022 เมื่อ 04:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา