ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 29-07-2022, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,522
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,152 ครั้ง ใน 34,109 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกประการหนึ่งที่หลวงปู่ป่วนท่านเมตตากล่าวถึงก็คือ ให้ลงอุโบสถทุกวันพระกลางเดือน และวันพระสิ้นเดือนตลอดพรรษา ตรงจุดนี้นั้น กระผม/อาตมภาพขอกราบอนุญาตเรียนถวายหลวงปู่ไว้ตรงนี้ว่า "วัดท่าขนุนนั้นลงอุโบสถตลอดทั้งปีครับ"

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเมื่อปี ๒๕๓๒ ซึ่งเป็นปีแรกที่กระผม/อาตมภาพเดินทางมายังจังหวัดกาญจนบุรี โดยเฉพาะที่อำเภอทองผาภูมิ ก็ได้พบว่าทางด้านนี้นั้น ตามวัดจะทำวัตรสวดมนต์เฉพาะช่วงเข้าพรรษา จะลงอุโบสถกันเฉพาะช่วงเข้าพรรษา

ในเรื่องการทำวัตรสวดมนต์นั้นก็ช่างเถิด เพราะว่าไม่มีบัญญัติไว้ในพระวินัย คือ ไม่ใช่ศีลพระ แต่ว่าในเรื่องลงอุโบสถนั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ว่า ต้องลงอุโบสถทุกกึ่งเดือน คำว่า กึ่งเดือน ก็คือครึ่งเดือน มาจากบาลีว่า "อัฑฒมาสัง" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงพยายามที่จะฟื้นฟูการลงอุโบสถตลอดปีในช่วงทุกกึ่งเดือน ไม่ว่าจะเป็นข้างขึ้น หรือว่าข้างแรม

ตอนแรกก็มีการเกี่ยงว่าหาผู้ที่สวดพระปาฏิโมกข์ได้น้อย กระผม/อาตมภาพจึงลงทุนในการนิมนต์ผู้ที่สวดพระปาฏิโมกข์ได้ มาสวดถวายให้แก่พระภิกษุวัดท่าขนุน โดยถวายค่ารถให้กับท่านทุกครั้ง จนกระทั่งฝึกฝนให้พระภิกษุของวัดท่าขนุนสามารถที่จะสวดพระปาฏิโมกข์ได้เองหลายรูป ปัจจุบันนี้ก็ได้ทำการสวดพระปาฏิโมกข์กันเอง ไม่ต้องนิมนต์ท่านอื่นให้ลำบากอีก

โดยที่ในตอนแรก ๆ นั้น
กระผม/อาตมภาพต้องใช้คำพูดที่ค่อนข้างรุนแรงว่า "ถ้าคุณสวดมนต์ทำวัตรเฉพาะช่วงเข้าพรรษา คุณลงอุโบสถเฉพาะช่วงเข้าพรรษา คุณก็ควรที่จะฉันเช้าฉันเพลเฉพาะช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น..!" ในเมื่อทุกคนเห็นว่ากระผม/อาตมภาพเอาจริง จึงค่อย ๆ คล้อยตามมา แล้วปัจจุบันนี้ในอำเภอทองผาภูมิ ก็มีการทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นทุกวัน โดยเฉพาะวัดท่าขนุน ทำวัตรเช้า ๑ รอบ ทำวัตรเย็น ๒ รอบ ออกบิณฑบาตทุกวัน เจริญพระกรรมฐานทุกวัน

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นภาระหน้าที่ของเจ้าอาวาสที่ต้องเข้มงวดกวดขัน โดยเฉพาะต้องลงไปทำด้วยตนเอง พระภิกษุสามเณรถึงจะยอมทำตาม ถ้าหากว่าสั่งอย่างเดียว ไม่มีทางเลยที่บรรดาพระภิกษุสามเณรจะยอมทำตาม เพราะว่าหัวไม่ส่าย หางก็ย่อมไม่กระดิก

ดังนั้น...ในการประชุมครั้งนี้สิ่งที่พระผู้เฒ่าอย่างหลวงปู่ป่วนท่านได้กล่าวเอาไว้นั้น ตรงกับแนวคิดและการปฏิบัติของกระผม/อาตมภาพพอดี จึงเป็นเรื่องสะดุดใจ ให้นำมาเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-07-2022 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา