ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 29-07-2022, 23:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,457
ได้รับอนุโมทนา 4,406,282 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ออกจากการประชุม มาบรรยายถวายความรู้ให้กับพระนวกะ ตามคิวที่ได้รับแจกเอาไว้ เมื่อบรรยายเสร็จสรรพเรียบร้อย ถวายความรู้และแนวคิดในการครองตนของพระใหม่แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางเพื่อเข้าไปยังที่พักในคืนนี้ เพื่อที่จะได้ไปกิจนิมนต์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีทั้งภาคเช้าและภาคบ่าย

ในระหว่างที่นั่งรถอยู่ก็ได้เข้าระบบซูมมีตติ้งออนไลน์ เพื่อเข้าร่วมประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งในเรื่องทั้งหลายทั้งปวงที่ได้กล่าวถึงในการประชุมนั้น ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องปกติของการปกครองคณะสงฆ์ ๖ ด้าน

แต่ในตอนช่วงท้ายที่ให้ผู้เข้าประชุมได้พบพระสังฆาธิการระดับสูง ก็คือเจ้าคณะจังหวัดและรองเจ้าคณะจังหวัดนั้น กระผม/อาตมภาพสะดุดใจที่หลวงปู่ป่วน พระครูธรรมสารรักษา (ป่วน ณฏฺฐโสภโณ) เจ้าอาวาสวัดบรรหารแจ่มใส รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ท่านบอกว่าท่านเป็นพระผู้เฒ่า ความรู้น้อย ไม่สามารถที่จะบรรยายตามหลักวิชาการได้

แต่ขอพูดตามที่ใจคิดว่า ในช่วงเข้าพรรษานั้น ให้ตีกลองระฆังย่ำรุ่งย่ำค่ำ เพื่อเป็นการตักเตือนญาติโยมให้รู้ว่า พระภิกษุสามเณรของเราจะกระทำความดีด้วยการทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นแล้ว และยังเป็นสัญญาณในตอนเช้าให้ญาติโยมได้ลุกขึ้นหุงข้าวปลาอาหาร เพราะว่าหลังการทำวัตรเช้าแล้ว เมื่อได้อรุณพระภิกษุสามเณรก็จะออกบิณฑบาต ท่านบอกว่าเมื่อญาติโยมได้ยินเสียงกลองเสียงระฆัง ก็จะเกิดความอุ่นใจ รู้สึกว่ายังมีวัดเป็นที่พึ่ง มีพระพุทธศาสนาเป็นหลักชัยของตนเองอยู่

ตรงจุดนี้นั้น กระผม/อาตมภาพได้กระทำมาตลอดตั้งแต่เริ่มเป็นเจ้าอาวาส โดยมีการฟื้นฟูการตีกลองระฆังย่ำรุ่งย่ำค่ำทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษาจะเน้นหนักมาก แต่ว่าตอนออกพรรษานั้น ให้เปิดแค่เสียงระฆังย่ำรุ่งในช่วงตี ๓ ครึ่ง เพื่อเป็นสัญญาณเตรียมเจริญกรรมฐานพร้อมกัน

ดังนั้น...ตรงจุดนี้ต้องบอกว่าหลวงปู่ป่วนซึ่งอายุ ๗๐ ปี กับกระผม/อาตมภาพที่อายุ ๖๓ ปี ย่าง ๖๔ นั้น ก็น่าจะเป็นบุคคลที่แก่ชราใกล้เคียงกัน จึงมีแนวคิดในการที่จะรักษาธรรมเนียมประเพณีเก่า ๆ เอาไว้เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-07-2022 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา