"เอาจริงแล้วหรือครับท่านย่า ?"
"เวลาที่ต่างกันมาก ย่าจึงต้องให้เตรียมพร้อมไว้ก่อน ถ้ารอให้มีเหตุก่อนค่อยขยับ เวลาของพวกเจ้าอาจจะเลยไปเป็นปี ถึงเวลาก็จะมีคนมาโวยกับย่าอีกจนได้"
มองดูท่านย่าและบรรดาพี่น้องทั้งหลาย ในชุดแดงพร้อมออกศึกแล้วสะท้อนใจ ก่อนนี้อาตมาก็เคยอยู่ในสภาวะเช่นนี้ แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่เช่นนั้นอีกแล้ว
"ช่วยกำชับลูกหลานของย่าให้หน่อย ว่าอย่าลืมพระคาถาเงินล้าน ใครทำมากได้มาก ใครทำน้อยได้น้อย ใครไม่ทำก็อย่ามาบ่นให้ย่าต้องรกหู"
"นอกจากศรัทธา (ความเชื่อ) ปสาทะ (ความเลื่อมใส) ภาวนาโดยตัดความอยากรวยออกจากใจ และต้องทำบุญอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังมีเคล็ดลับอะไรอีกไหมครับ ?"
"ความมุ่งมั่นที่เป็นอธิษฐานบารมี ความเอาจริงเอาจังที่เป็นสัจบารมี ความสม่ำเสมอที่เป็นศีลบารมี ความพากเพียรภาวนาที่เป็นวิริยบารมี ความอดทนจนกว่าจะประสบความสำเร็จที่เป็นขันติบารมี การทำบุญที่เป็นทานบารมี การรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวให้พอเหมาะกับตนเองที่เป็นปัญญาบารมี การตั้งหน้าภาวนาโดยไม่สนใจผลที่จะเกิดขึ้นที่เป็นอุเบกขาบารมี การตั้งอารมณ์ภาวนามั่นคงจนกดกิเลสเอาไว้ได้ที่เป็นเนกขัมมบารมี การวางอารมณ์ใจให้ผ่องใสเยือกเย็นในระหว่างภาวนาที่เป็นเมตตาบารมี เคล็ดลับแค่นี้ถ้าพวกเจ้าทำได้ ก็สามารถใช้ผลของพระคาถาเงินล้านได้อย่างเต็มที่ทุกคน"
"เอิ๊กกก...เป็นลม..!"
อาตมาก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งที่ตนเองทำแล้วประสบความสำเร็จนั้น ที่แท้จริงแล้วประกอบไปด้วยบารมี ๑๐ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เพิ่งจะมารู้เอาตอนที่ท่านย่าเมตตาเฉลยให้ทราบนี่เอง แสดงว่าก่อนหน้านี้เป็นการ "ขี้ตรงร่อง" ทำแบบโง่ ๆ ตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเมตตาสอนไว้ บังเอิญกลายเป็น "โง่แล้วได้ดี" อย่างทุกวันนี้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2020 เมื่อ 21:02
|