ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 19-07-2021, 01:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,519 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ผมเป็นคนช่างสังเกตกำลังใจตัวเองถึงได้รู้ว่า การที่เราอยู่ในวัดเหมือนอย่างกับอยู่ในเขตปลอดภัย หลุดออกจากวัดไปเมื่อไรก็ฟุ้งซ่านเมื่อนั้น โดยเฉพาะเมื่อกลับบ้าน ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมที่บ้านมักจะนำสารพันปัญหามายัดใส่หูเรา ซึ่งก็เท่ากับยัดใส่หัวเรา แล้วก็ลงไปที่ใจของเรา จากความสงบที่เรามีอยู่ตอนอยู่วัด ก็จะกลายเป็นฟุ้งซ่านไปหมด..!

โดยเฉพาะท่านที่มีครอบครัว มีลูกมีเมียมาก่อนบวช ยิ่งหนักหนาสาหัส ถ้าไม่ใช่บุคคลที่มั่นคงจริง ๆ มักจะอยู่ไม่ได้ ตัวอย่างชัดเจนที่สุดก็หลวงพ่อพระสุทินนกลันทบุตรกับหลวงพ่อพระรัฐบาลเถระ สมัยพุทธกาลทั้งคู่

หลวงพ่อรัฐบาลเถระ พอทางบ้านรู้เข้าก็นำเอาบรรดาภรรยาเก่าแต่งตัวอย่างงดงาม พร้อมกับสมบัติกองเป็นภูเขาเลากาเอาไว้ตรงหน้าของท่าน แล้วพ่อแม่มาขอร้องให้สึกกลับไป เพื่อที่จะอยู่กับครอบครัวและใช้สมบัตินั้นต่อ แต่หลวงพ่อรัฐบาลเถระท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านก็เลยไม่ได้ใส่ใจ บอกว่าถ้ามีมากนักก็แจกให้กับคนจนไปบ้าง..!

ส่วนหลวงพ่อพระสุทินนกลันทบุตร ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ตอนช่วงนั้นยังไม่มีการบัญญัติศีลพระแม้แต่ข้อเดียว ท่านเองก็ยังเป็นปุถุชนอยู่ ประเทศอินเดียสมัยนั้นมีค่านิยมว่า ถ้าไม่มีลูกชายมารับสืบทอดมรดก ทรัพย์สินทั้งหมดจะโดนยึดเข้าคลังหลวง..!

ในเมื่อหลวงพ่อพระสุทินนกลันทบุตรไม่ยอมสึก ทางพ่อแม่ก็เลยพาภรรยาเก่ามาให้ บอกว่า "ถ้าคุณไม่สึกไม่เป็นไรหรอก ขอลูกชายเอาไว้สักคนหนึ่งจะได้มาดูแลสมบัติแทน" ในเมื่อไม่มีศีลห้ามไว้ หลวงพ่อสุทินน์คิดว่าไม่เป็นไร เพราะว่าท่านเองยังเป็นปุถุชนอยู่ ก็เลยเสพเมถุนกับเมียเก่าจนกระทั่งมีลูกชายขึ้นมา

หลังจากนี้ท่านมาคิดว่า "ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ไม่ควรที่จะกระทำเรื่องอย่างนี้" ก็เลยเกิดใจเศร้าหมอง คิดมากจนเครียด เพื่อนพระมาสอบถาม
พอรู้ความเข้า ก็ประณามด่าว่าท่าน พระพุทธเจ้าต้องประชุมสงฆ์สอบถามสาเหตุ แล้วมีบัญญัติว่า "พระภิกษุห้ามเสพเมถุน (ก็คือมีเมีย) ถ้าใครเสพเมถุนต้องอาบัติปาราชิก (คือขาดความเป็นภิกษุไปเลย)" ส่วนหลวงพ่อพระสุทินน์ท่านเป็นต้นบัญญัติ ได้รับการยกเว้น ประมาณว่ายังไม่มีกฎหมาย ทำไปก็ไม่ผิด แต่หลังจากที่บัญญัติกฎหมายแล้ว ใครทำอีกก็จะผิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-07-2021 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา