ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 13-06-2022, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,511
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,945 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถึงเวลาพระองค์ท่านบอกว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพลืมตาขึ้นมา คาดว่าเวลาจะอยู่ที่ประมาณ ๑ ชั่วโมง ก็จัดการทำน้ำมนต์ พรมรอบบริเวณพิธี แล้วก็โปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา หลังจากรับปัจจัยไทยธรรมแล้วก็ได้ขอตัวกลับมา

ในพิธีกรรมครั้งนี้ สิ่งพิเศษก็คือ การที่เห็นคำว่า "พุทม้วนโลก" นั้นเป็นอย่างไร และขณะเดียวกัน พระพุทธเจ้านั้นไม่ว่าจะเป็นสายอนัมนิกาย สายจีนนิกาย สายวัชรยาน หรือว่าสายมหายาน สายเถรวาทอะไรก็ตาม ถ้าหากว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน พุทธานุภาพที่แสดงออกก็เหมือนกันทุกประการ

และขณะเดียวกัน พระองค์ท่านเคยสงเคราะห์ให้แค่ไหน ก็มักจะให้แค่นั้น ยกเว้นว่ามีอะไรเพิ่มเติม พระองค์ท่านก็จะเมตตาตรัสบอกเพิ่มขึ้น อย่างครั้งนี้เป็นต้น ซึ่งถ้าหากว่าเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนจบลงแค่นี้ ก็คงจะมีเรื่องราวไม่เพียงพอต่อระยะเวลาที่ยังเหลืออยู่

ก็มาขอกล่าวถึงไอ้ตัวเล็กของพวกเรา ซึ่งท่านทั้งหลายคุ้นเคยกันดี ก็คือนางสาวพัชรีภรณ์ หยกอุบล ซึ่งวันนี้ไปด้วยกัน มีโอกาสสอบถามปัญหาว่า ในการที่เราประพฤติปฏิบัติในอสุภกรรมฐานก็ดี ในอาหาเรปฏิกูลสัญญาก็ดี เมื่อถึงเวลาแล้ว รู้สึกอยากจะอาเจียน ทำให้หมดอารมณ์ ไม่กล้าที่จะประพฤติปฏิบัติต่อ ควรที่จะทำอย่างไรดี ?

กระผม/อาตมภาพก็ได้ตอบไปว่า นั่นเป็นลักษณะของบุคคลที่ปัญญาเกินสติ ก็คือรู้เห็นอย่างเดียว แต่ขาดสติในการยั้งคิด ทำให้บางทีก็อาจจะกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิ ประพฤติผิด ประพฤติพลาดไปได้เลย

ถ้าหากว่าเราพิจารณาดูในอินทรีย์ ๕ และพละ ๕ ซึ่งเป็นหลักธรรมสำคัญ ในโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ คือหลักธรรมที่ช่วยให้บรรลุมรรคบรรลุผลนั้น หลักธรรมทั้ง ๑๐ หัวข้อนี้นั้น หน้าตาเหมือนกันทุกประการ เมื่อรวมแล้วจึงได้แค่ ๕ เท่านั้น ก็คือ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา

โดยที่ครูบาอาจารย์ท่านได้ให้คำแนะนำไว้ว่า ในเรื่องของศรัทธานั้นต้องคู่กับปัญญา ไม่เช่นนั้นถ้าศรัทธาขาดปัญญาก็จะกลายเป็นงมงาย ในเรื่องของวิริยะต้องคู่กับสมาธิ ถ้าหากว่าพากเพียรพอเหมาะพอดี ผลของการประพฤติปฏิบัติก็จะเห็นผลเร็ว แต่ถ้าหากว่าพากเพียรเกินไป ก็กลายเป็นอัตตกิลมถานุโยค ถ้าหากว่าย่อหย่อนเกินไปก็กลายเป็นกามสุขัลลิกานุโยค ยกเว้นอย่างเดียวคือสติ ยิ่งมีมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นคุณประโยชน์มากเท่านั้น ซึ่งตรงท้ายนี้ไม่จริง เพราะว่า ถ้าสติเกินปัญญา ก็จะลังเล ไม่กล้าทำอะไร เพราะว่ากลัวผิด กลัวพลาด ทุกอย่างจึงต้องเสมอหน้ากัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2022 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา