ท่านทั้งหลายที่เรียนนักธรรมชั้นโทมาแล้วก็จะเห็น ถ้าภิกษุที่เป็นช่างกัลบกเก่า ห้ามจับมีดโกน จับมีดโกนจะต้องอาบัติ คนอื่นจับไปเถอะ แต่ช่างตัดผมห้าม เพราะพระพุทธเจ้าเกรงว่าจะไปนึกถึงอาชีพเดิมของตัวเองแล้วก็ฟุ้งซ่าน สึกไปทำมาหากินใหม่
ป่านนี้ไอ้ทิดเจ (นพรัตน์ กุลสัมพันธ์ขัย) ก็คงซาบซึ้งแล้วที่หลวงพ่อเตือนคืออะไร ? ปล่อยไปก็แล้วกัน..เขาเก่ง ก็ในเมื่อขนาดพระที่เคยเป็นช่างตัดผม ยังห้ามจับมีดโกน แม่ชีอดีตนักร้องก็ไม่ควรที่จะไปจับไมค์ จับมาแล้วก็ทำตัวเองศีลขาดอย่างที่เห็น
อีกเรื่องหนึ่งที่ทางเพื่อนฝูงเขาส่งมาก็คือ มีนักการเมืองบางพรรคอวดฉลาด ยื่นกระทู้ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้มงวดกับการใช้เงินของบรรดาเจ้าอาวาส เพื่อที่จะป้องกันการคอรัปชั่นที่จะเกิดขึ้นในวงการสงฆ์ ฟังดูดีมาก แต่โง่สะบัดเลย..!
ในช่วงที่ผ่านมา ถึงขนาดมีพระเถระผู้ใหญ่โดนจับเข้าคุกไปตั้งหลายต่อหลายราย ก็เพราะความเข้มงวดในเรื่องนี้ เขาทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว ซ้ำยังไม่ได้มาดูว่าคณะสงฆ์ของเรา ปีหนึ่งต้องส่งบัญชีถึง ๓ ครั้ง ก็คือส่งตามปีงบประมาณ ๒ ครั้ง ๙ เดือนแรกกับตอนครบปี แล้วก็ส่งคณะสงฆ์อีก ๑ ครั้ง ตามรอบปี ไม่ใช่รอบงบประมาณ ในเมื่อเขาทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว คุณไปนอนหลับอยู่ที่ไหนมา ?
แล้วบรรดาท่านผู้เป็นใหญ่ทั้งหลายที่รับฟังอยู่ก็น่าจะโง่พอกัน..! ไม่มีข้อมูลตรงนี้ ฟังแล้วกระผม/อาตมภาพรู้สึกว่าอนาคตของพระพุทธศาสนาของเราเลือนรางเหลือเกิน ขนาดผู้ปกครองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบ ซ้ำยังมีคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ประจำสภาผู้แทนราษฎรด้วย แต่กลับไม่มีความชัดเจนในเรื่องของพระเลย แบบนี้แปลว่าอะไร ? ยังดีนะครับ สามปีแรกที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาส ต้องส่งข้อมูลเกี่ยวกับวัด ๔ ครั้ง เปลี่ยนรัฐบาลทีหนึ่ง ก็ขอมาทีหนึ่ง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2022 เมื่อ 03:05
|