ดูแบบคำตอบเดียว
  #75  
เก่า 27-01-2014, 19:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,530
ได้ให้อนุโมทนา: 151,474
ได้รับอนุโมทนา 4,406,634 ครั้ง ใน 34,120 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปฐมพุทธวจนะ อะเนกะชาติสังสารัง สันธาวิสสัง อะนิพพิสังฯ.... เป็นอเนกชาติ คือนับชาติไม่ถ้วนแล้ว ที่ได้เที่ยวแสวงหานายช่างผู้สร้างเรือนคือตัณหานี้ จนต้องเกิดบ่อย เกิดแล้วเกิดอีก เกิดอยู่ในกองทุกข์ ดูก่อนตัณหาผู้สร้างเรือน บัดนี้เราเห็นเจ้าแล้ว เจ้าไม่สามารถที่จะสร้างเรือนให้แก่เราได้อีกแล้ว

ทางพม่าเขาใช้คาถาบทนี้ในการปลุกเสกพระ ตอนแรกอาตมาก็สงสัย พระมีอยู่ด้วยกัน ๕ รูป นั่งล้อมวง ต่างคนต่างจุดเทียนไว้หน้าตัวเอง นั่งล้อมวงหน้าองค์พระ แล้วเสกด้วยบทอเนกชาติฯ ตามกำลังวัน ถ้าเป็นวันศุกร์ก็มากหน่อย เสกเสร็จก็พรมน้ำมนต์ เป็นอันว่าพุทธาภิเษกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไหน ๆ อาตมาก็อยู่ในพิธีแล้ว จึงอธิษฐานภาพพระครอบทั้งหมู่บ้านไปเลย เผื่อให้ทุกคน"


ถาม : เขาถือคติอย่างไรคะ ถึงเสกบทนี้ ?
ตอบ : เขาถือความเป็นพระพุทธเจ้าก็คือประโยคนี้ เรียกว่าปฐมพุทธวจนะ คือพอบรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็เปล่งอุทานขึ้นมา เป็นอเนกชาติที่เวียนว่ายตายเกิด ทุกข์แล้วทุกข์อีกจนนับไม่ได้ ก็เพราะว่าต้องการจะแสวงหาตัวเจ้าตัณหาที่เป็นตัวสร้างภพสร้างชาติให้ บัดนี้ก็ได้เจอหน้าแล้ว บ้านเรือนอะไรเราหักทิ้งหมดแล้ว เจ้าไม่สามารถจะสร้างเรือนให้แก่เราได้อีกแล้ว

วิสังขาระคะตัง จิตตัง สภาพจิตที่เข้าถึงความไม่ปรุงแต่งแล้ว ตัณหานัง ขะยะมัชฌะคา ย่อมเข้าถึงความสิ้นไปของตัณหา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-01-2014 เมื่อ 03:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา