ถาม : ผมได้มีโอกาสพานิสิตไปศึกษาดูงานที่กาญจนบุรี แล้วไปดูงานที่วัดท่าขนุนของหลวงพ่อด้วย สิ่งที่ตัวกระผมและบรรดานิสิตได้เห็นนั้น ต้องบอกว่า เราพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปาฏิหาริย์มีจริง เพราะว่าสิ่งที่เห็นไม่คิดว่า วัดอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีติดพม่าจะสามารถทำได้อย่างนี้ ผมอยากทราบว่า หลวงพ่อมีการบริหารการจัดการภายในวัดท่าขนุนอย่างไรบ้างครับ ? มีแนวทางอะไรบ้างที่ให้ลูกศิษย์ได้ไปประพฤติปฏิบัติตามได้ครับ ?
ตอบ : อันดับแรกเลย เมื่อสักครู่ที่บอกไปแล้วว่า "ถ้าท่านพูด เขาแค่ฟัง ถ้าท่านทำ เขาจะเชื่อ" เพราะฉะนั้น...ทุกอย่างที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน อาตมาจะลงไปนำเขาเองทุกครั้ง
เราจะไปคิดว่าตัวเราเองเป็นเจ้าอาวาส เป็นเจ้าคณะตำบล เป็นเจ้าคณะอำเภอ เรายิ่งใหญ่แล้ว ปล่อยให้พระใหม่เขาทำกัน ถ้าอย่างนั้นวัดนั้นไปไม่รอด เพราะว่าต้องมีภาวะผู้นำ ผู้ตามถึงจะยอมเดินตาม ถ้าหากว่าภาวะผู้นำของเราไม่ดี ใครเขาจะอยากตาม ?
แล้วอีกอย่างหนึ่ง หลักการบริหารก็ง่าย ๆ ครับ 4M ที่อาจารย์สอนพวกผมนั่นแหละ ก็คือถ้าหากว่ามีเรื่องของการบริหาร ก็จะต้องประกอบไปด้วยเรื่องของเงิน เรื่องของคน เรื่องของวัสดุอุปกรณ์ ในเรื่องของวิธีการจัดการ ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ว่าจะวิธีไหนก็ตาม ถ้าหากว่าตัวเราเป็นที่น่าเชื่อถือ ปีแล้วปีเล่าเราก็ทำเพื่อส่วนรวม ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราทำ จะเกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ คนเขาจะเห็นด้วยและยินดีทำตาม
ท่านอาจารย์จะต้องเห็นว่า ปัจจุบันนี้จริง ๆ แล้วคนเขาอยากทำบุญกันมาก แต่เขาต้องการพระภิกษุสามเณรที่เขาไว้ใจได้ ดังนั้น...เราจะเห็นว่าบางวัดทำไมคนแห่กันไปทำบุญจนบางคนก็มา "ดราม่า" ว่าทำไมไม่ไปทำกับวัดจน ๆ บ้าง ก็เพราะว่าวัดทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ได้ทำตนให้เป็นที่ไว้วางใจของญาติโยมเขา
ถ้าหากว่าท่านใช้เวลาหลายปี หรือหลายสิบปี ในการสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยที่ไม่ได้คิดจะเบียดบังเพื่อตัวเองเลย สิ่งที่ท่านเห็นก็คือความเจริญที่เกิดขึ้นกับสถานที่และสังคมรอบข้าง แต่ถ้าหากว่าเราไม่ได้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ผลงานจะฟ้องเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเราทำเพื่อสังคมอย่างเต็มที่ ศรัทธาจะมา และมาเรื่อย ๆ ในเมื่อมีศรัทธา มีแรงหนุนแล้ว ก็เหมือนอย่างกับน้ำขึ้น เราจะพาเรือไปไกลขนาดไหนก็ได้ ขอเจริญพร
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2021 เมื่อ 16:52
|