ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 14-01-2022, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,451
ได้รับอนุโมทนา 4,406,246 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อปฏิบัติไปโดยที่ไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน ก็ทำให้เป็นผู้ที่มีความเครียดน้อย บุคคลที่เครียดน้อย ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายก็ไปช้า เอาแค่เพื่อนฝูงรุ่นเดียวกันของกระผม/อาตมภาพในปัจจุบันนี้ ถ้าหากว่าไปนั่งประกบคู่กันเมื่อไร กระผม/อาตมภาพก็กลายเป็นลูกชายของเพื่อนไปเมื่อนั้น แม้กระทั่งหลวงพ่อท่านเจ้าคุณอนันต์ ก่อนที่จะมรณภาพ เจอหน้ากันยังบอกว่า "เล็ก..แกไม่แก่กับใครเลยหรือวะ ?" ได้กราบเรียนไปว่า "ผมแก่ครับ เพียงแต่ว่าไปช้านิดหนึ่ง คนก็เลยไม่ได้สังเกต"

ดังนั้น...ตรงจุดนี้ ถ้าหากว่าเรารักษากำลังใจของเราได้ พยายามละในเรื่องของความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลงให้น้อยลง ไฟใหญ่ ๔ กองนี้ไม่สามารถที่จะเผาผลาญทำลายเราได้มาก ก็เท่ากับว่าร่างกายและจิตใจของเราเสื่อมโทรมช้าลง

ในเมื่อเป็นในลักษณะอย่างนี้ เปลือกนอกก็อาจจะยังดูดี สามารถหลอกตาคนอื่นเขาได้ แต่ว่าตัวตนของเราจะรู้เองว่าข้างในแก่ขนาดไหน โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพ เมื่ออายุ ๓๒ ขึ้นมา ก็รู้สึกว่าตัวเองแก่ไปถนัดใจ ช่วงนั้นเห็นใครก็เรียกเป็นลูกไปหมด แสดงว่าความแก่มาเยือนตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว

ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ ญาติโยมทั้งหลายก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ในทาน ในศีล ในภาวนาของตนเองไป ส่วนปฏิบัติไปแล้ว ถ้าหากว่าไปสะดุดตาสะดุดใจของคนอื่นเข้า ถ้าเขาไม่รู้จักมุทิตา ไม่ยินดี ไม่โมทนาด้วย โทษทัณฑ์ทั้งหลายเหล่านั้นก็เกิดกับเขาเอง เพียงแต่ว่าเราต้องระมัดระวัง อย่าทำในลักษณะที่ว่า ไปอวดคนอื่นเขา

โดยเฉพาะนักปฏิบัติธรรม จะมีอยู่ระยะหนึ่ง ที่อยากพูดอยากสอนคนอื่นไปหมด ขอให้ระมัดระวังให้มากไว้ เพราะว่าอาจจะพาให้คนเป็นมิจฉาทิฐิโดยไม่รู้ตัว เนื่องเพราะว่าเมื่อเราปฏิบัติไปถึงระดับไหน ก็มักจะไปยึดมั่นถือมั่นว่า "ตรงนั้นใช่แล้ว" "ตรงนั้นถูกแล้ว" แต่เมื่อปฏิบัติได้สูงขึ้น ก้าวพ้นขึ้นไป ก็จะเห็นว่า "อ้าว..ตรงนั้นยังไม่ถูกจริง ยังไม่ดีจริง" แล้วก็จะไปยึดมั่นถือมั่นอยู่ในที่ใหม่ที่เราปฏิบัติถึง อยู่ในกำลังใจใหม่ที่เราปฏิบัติถึง ว่าตรงนี้ใช่แล้ว ตรงนี้ถูกแล้วอีก จะเป็นอย่างนี้เป็นระยะ ๆ ไป


เราพึงระมัดระวังกาย วาจา ใจ ของตนเอง อย่าให้เป็นทุกข์เป็นโทษกับคนอื่น ส่วนคนอื่นถ้าเขาไม่ระมัดระวัง เข้ามากระทบกระทั่งกับเราโดยเจตนาร้าย ตรงนั้นก็ต้องถือว่าปล่อยให้เป็นไปตามเวรตามกรรมของเขาก็แล้วกัน

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2022 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา