ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 16-01-2022, 22:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,803 ครั้ง ใน 34,093 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะในความเป็นครูนั้น ได้รับการยกย่องเป็นทุลลภบุคคล บุคคลที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ๒ ประเภท ประเภทแรกคือบุรพการี แปลว่าผู้ทำคุณให้ก่อน ประเภทที่สองคือกตัญญูกตเวที เป็นผู้ที่รู้คุณท่านแล้วทำการตอบแทน

บุรพการีประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ? พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระมหากษัตริย์ พระพุทธเจ้า

พ่อแม่เลี้ยงลูก ต้องบอกว่าเป็นความรักโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ได้หวังผลตอบแทนใด ๆ จากลูก ใครจะบอกว่าเลี้ยงดูเพราะหวังผลตอบแทน อยากให้ดูแลตอนแก่อะไรก็ตาม ถ้าหากว่าไม่ได้เกิดขึ้นจากพรหมวิหารอย่างแท้จริง โกรธขึ้นมาแล้วเอาขี้เถ้ายัดปากเสีย เอ็งก็ไม่มีโอกาสโตขึ้นมาตำหนิพ่อแม่แล้ว..!

ครูบาอาจารย์สั่งสอนให้ความรู้ หลายท่านก็ดูแลลูกศิษย์อย่างกับพ่อแม่เลย เพียงแต่ว่าในปัจจุบันนี้ จริยธรรมความเป็นครูลดน้อยถอยลงไปตามระบบการศึกษาในบ้านเรา

ระบบการศึกษาในบ้านเราปัจจุบันนี้ต้องบอกว่าเป็นระบบเศรษฐกิจเต็มตัว ก็คือเปิดการเรียนการสอนขึ้นมาก็มีการเก็บเงิน มีการแข่งขัน ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปเพื่อชัยชนะ หรือว่าเพื่อความสำเร็จของสถาบันนั้น ๆ ไม่ใช่เพื่อความสำเร็จของลูกศิษย์ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จิตวิญญาณความเป็นครูบาอาจารย์จึงลดน้อยถอยลง การที่จะทุ่มเทสั่งสอนลูกศิษย์ด้วยความหวังดีปรารถนาดีไม่มี ความคิดที่จะตอบแทนก็เลยน้อยลงไปด้วย ทำให้เด็กรุ่นหลัง ๆ ตำหนิติเตียนเอาได้

แต่ว่าครูที่มีจิตวิญญาณความเป็นครูก็ยังมีอยู่มาก หลายท่านเรียนจบแล้วก็เข้าป่าขึ้นเขา ไปสอนสั่งเด็ก ๆ ตามป่าตามเขา โดยไม่ได้คิดที่จะสอบบรรจุเป็นครู แต่ว่าไปในลักษณะของครูอาสา สอนเป็นธรรมทานไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-01-2022 เมื่อ 06:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา