ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 16-01-2022, 22:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,826 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

๓. ภาวนีโย เป็นผู้แสวงหาความเจริญอยู่เสมอ ก็คือศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดชีวิต เพราะว่าความรู้นั้นมีเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลา ถ้าขาดการศึกษาเพิ่มเติมก็ตามโลกไม่ทัน ในเมื่อตามโลกไม่ทัน จะสอนลูกศิษย์ให้เท่าทันโลกก็ย่อมเป็นไปไม่ได้

ข้อต่อไป ๔. วัตตา ตามรากศัพท์เขาบอกว่ารู้จักพูด คำว่ารู้จักพูดก็คือ เป็นผู้ประกอบไปด้วยเหตุด้วยผล สามารถที่จะชี้แจงทุกอย่างอย่างถูกต้อง สมเหตุสมผลทุกประการ

๕. วจนักขโม แปลตรง ๆ ว่าอดทนต่อถ้อยคำได้ ก็คือใครจะด่า จะว่า จะตำหนิติเตียน จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ผู้เป็นครูต้องมั่นคงไม่หวั่นไหว เหมือนบาลีที่ว่า ศิลาที่เป็นแท่งทึบย่อมไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด ครูก็ต้องเป็นผู้ที่ไม่หวั่นไหวฉันนั้น ถ้าหากว่าเป็นปุถุชนอยู่ ยังหวั่นไหว ก็ต้องเก็บอาการให้อยู่

๖. คัมภีรัญจะ กะถัง กัตตา อธิบายเนื้อหา ข้อธรรมต่าง ๆ ได้ลึกซึ้งชนิดรู้แจ้งเห็นจริง ถ้าหากว่าเป็นวิชาการก็ต้องทำเองได้ แล้วถึงจะไปสอนคนอื่นต่อ จะได้บอกทางที่ถูกต้องและตรงของวิชาการนั้น ๆ

ข้อสุดท้ายสำคัญที่สุด ๗. โน จัฏฐาเน นิโยชะเย ไม่ชักนำศิษย์ไปในทางเสียหาย ไม่ใช่ชักนำให้ประท้วง ชักนำไม่ให้รับปริญญาบัตร ชักนำไม่ให้ถวายการต้อนรับผู้เป็นประธานในการพระราชทานปริญญาบัตร เป็นต้น ถ้าลักษณะอย่างนี้ แปลว่าขาดคุณสมบัติความเป็นครูอย่างแรง เพราะว่าศิษย์ย่อมเป็นไปตามที่ครูสอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-01-2022 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา