วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ไม่ใช่วันหวยออก แต่ว่าเป็นวันครูแห่งชาติ ก็ต้องถือว่าทางรัฐบาลยังมีจิตสำนึกที่ดี เลื่อนวันหวยออกไปไม่ให้ตรงกับวันครู
คำว่า ครู รากศัพท์มาจากคำว่า ครุ แปลว่า หนักมาก ก็คือภาระในการสั่งสอนอบรมศิษย์ ซึ่งถ้าหากว่าทำได้ดี ศิษย์ก็จะถอดแบบความรู้ความประพฤติของครูบาอาจารย์ไป ถึงได้มีการใช้คำว่า "แม่พิมพ์" โดยเฉพาะเปรียบว่าเป็นแม่พิมพ์ของชาติ แล้วก็มีพวก "ปัญญานิ่ม" ไปใช้คำว่า "พ่อพิมพ์ของชาติ" สำหรับครูผู้ชาย ซึ่งคำนี้ไม่มีปรากฏในพจนานุกรม เนื่องจากว่าต้นแบบที่เอาไว้สำหรับผลิตสิ่งของต่าง ๆ เขาเรียกว่า "แม่พิมพ์" ทั้งสิ้น เป็นคำกลาง ไม่มีการแยกเพศ
บางอย่างในเรื่องของการเข้าใจผิดทางภาษา ก็ทำให้เกิดศัพท์ประหลาด ๆ ขึ้นมา อย่างเช่น "อนุโมทนา" คำว่า อนุ เป็น อุปสรรค คือ คำนำหน้า แปลว่า น้อย แปลว่า ภายหลัง แปลว่า ตาม เป็นต้น อย่างเช่นว่า อนุภรรยา ก็คือ เมียน้อย, อนุชน = คนรุ่นหลัง, อนุจร = ผู้เดินตาม พอไปคำว่าอนุโมทนา โมทนา ก็คือ ยินดี ดังนั้น...อนุโมทนาคือ ยินดีตามไปด้วย แล้วก็ดันมีพวกประเภทที่คิดว่าตัวเองเก่ง เห็นว่าคำว่า อนุ แปลว่า น้อย ก็เลยใช้คำว่า "มหาโมทนา" ฟังแล้ว "น้ำตาจิไหล..!" ต้องบอกว่าแหกกฎทั้งบาลี ทั้งภาษาไทย
คำว่าครูนั้น ต้องประกอบไปด้วยกัลยาณมิตรธรรม ๗ ประการ ก็คือ ๑. ปิโย ซึ่งถ้าแปลตรง ๆ ก็คือน่ารัก ก็แปลว่าครูนั้นต้องมีส่วนที่ชวนให้ศิษย์ชิดใกล้ อยากที่จะศึกษาวิชาการนั้น ๆ ด้วย
๒. ครุ ตรงตัวเลยคือหนัก ในที่นี้ก็คือความหนักแน่นทางอารมณ์ ไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ ประมาณว่า "ไบโพลาร์" เพราะถ้าหากว่าขาดความหนักแน่น ไม่สามารถเป็นที่พึ่งพาของลูกศิษย์ได้ ใครอยากจะไปเรียนด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-01-2022 เมื่อ 07:23
|