ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 07-06-2021, 23:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,959 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนทำได้ แต่ต้องขยันซักซ้อม ไปศึกษาในเรื่องของวสี ๕ อย่าง มีตั้่งแต่สมาปัชชนวสี..ความเชี่ยวชาญชำนาญในการเข้าสมาธิ วุฏฐานวสี..ความชำนาญเชี่ยวชาญในการออกจากสมาธิ เป็นต้น ถ้าหากว่าเป็นภาษาบาลี บางทีเราแปลไม่ออก ก็รู้สึกว่ายาก จะมีการเข้าฌานตามลำดับ เข้าฌานสลับฌาน เข้าฌานตั้งเวลาว่าจะเอายาวนานเท่าไร

บรรดาพวกโยคีในอินเดียมีที่ชำนาญพวกนี้มาก บางคนเข้าทีปีหนึ่งเลย..! หนึ่งปีคลายสมาธิออกมาครั้งเดียว ออกมาดื่มน้ำนิดหน่อย บางคนก็กินอาหาร อย่างเช่นว่าแผ่นแป้งโรตีเท่า ๒ นิ้วมือชิ้นหนึ่ง แล้วก็กลับเข้าสมาธิใหม่ ปีหน้าค่อยเจอกัน เป็นเรื่องที่แม้แต่นักบวชนอกพระพุทธศาสนาก็ทำกันได้เป็นปกติ

ดังนั้น...พวกเราควรจึงที่จะซักซ้อมเอาไว้ เพราะว่าถ้าสมาธิเรามีความคล่องแคล่วมากเท่าไร โอกาสที่รัก โลภ โกรธ หลง จะทำอันตรายเราได้ก็น้อย ทันทีที่รู้สึกว่า รัก โลภ โกรธ หลง จะเกิดขึ้น เราก็วิ่งเข้าไปหาสมาธิ พอสมาธิทรง..ตัวเรื่องทั้่งหลายเหล่านี้ก็จะโดนดับราบคาบไปโดยอัตโนมัติ แม้ว่าจะเป็นวิกขัมภนวิมุติ คือการหลุดพ้นเพราะสะกดข่มไว้ด้วยอำนาจของฌานก็ตาม แต่ถ้าเราสามารถกดไว้ได้เนิ่นนานพอก็จะเป็นเจโตวิมุติ ก็คือการบรรลุมรรคผลด้วยการใช้สมาธิภาวนา แต่ว่าเป็นเรื่องยาก

ดังนั้น..เราจึงต้องอาศัยวิปัสสนาภาวนา พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงว่า ร่างกายของเราประกอบด้วยความไม่เที่ยงแบบไหน ? เป็นทุกข์แบบไหน ? ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราแบบไหน ? จนกระทั่งสภาพจิตยอมรับอย่างแท้จริง ถอนออกจากการยึดเกาะในร่างกายนี้ได้ ก็จะไม่ยึดเกาะในทุกสิ่งทุกอย่าง เราก็สามารถที่จะล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้

ฉะนั้น...ส่วนนี้ท่านที่เป็นนักปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชีหรือฆราวาส ถ้ามีโอกาสก็ควรที่จะซักซ้อมให้คล่องตัวเอาไว้ เพราะว่าแม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสว่า พระองค์เป็นผู้มากด้วยอานาปานสติ ก็คือการทรงฌานนั่นเอง

ก็ขอเรียนถวายต่อพระภิกษุสามเณร และเจริญพรให้กับญาติโยมทั้งหลายได้ทราบแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2021 เมื่อ 01:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา