ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 28-07-2020, 21:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,354 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนญาติโยมบางท่านนั้นน่าชื่นชมมาก เพราะว่าทำบุญด้วยการไม่ยึดติด ปล่อยวางไปเลย ก็คือถึงเวลาเดินเข้ามาทำบุญ แล้วก็ถอยออกไปนั่งรอ ถึงเวลาจะได้รับพรพร้อมกันทั้งคณะ ความจริงท่านทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าทำมาถึงระดับนี้แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาถึงบ้านเติมบุญก็ได้ แต่ว่าท่านแสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนถึงบารมี คือกำลังใจของตนเอง ว่าเข้มแข็งขนาดไหน ก็คือต้องเดินทางมาไกลมาก บางท่านก็มาจากลพบุรี บางท่านก็มาจากชลบุรี ส่วนหนึ่งก็มาจากทางสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร มาถึงแล้วมีเวลาอยู่ต่อหน้าอาตมภาพแค่ไม่ถึง ๑๐ นาที บางท่านมาเอาเกือบหมดเวลาแล้ว ได้อยู่แค่ ๒-๓ นาที แต่ท่านทั้งหลายก็ยินดีที่จะมา เห็นได้ถึงกำลังใจของท่านที่เข้มแข็ง ที่สมบูรณ์บริบูรณ์ ควรแก่การบรรลุธรรมเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้ว เป็นการวัดกำลังใจอย่างชัดเจนประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็เพื่อให้ท่านทั้งหลาย ได้ประพฤติปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เป็นของใหม่ ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์เก่าก็ดี กฎเกณฑ์ใหม่ก็ตาม เป็นแค่ส่วนหยาบภายนอกเท่านั้น ไม่ว่าจะสถานที่ใดก็ตาม ย่อมมีกฎระเบียบ ย่อมมีแบบแผนของตนอยู่ ถ้าหากว่าเราไม่สามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากันได้ ก็แปลว่ากำลังใจของเรานั้นยังไม่ดีพอ

อาตมภาพเคยเปรียบว่า กำลังใจของผู้ปฏิบัติธรรมทั่วไปนั้น เหมือนกับสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ พอวางลงไปก็ติดตายอยู่กับที่ ไม่สามารถที่จะใช้งานอะไรได้มากกว่านั้น นั่นคือลักษณะของการยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะการ "ติดดี" แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมีการขัดเกลาซึ่งกาย ซึ่งวาจา ซึ่งใจ ของตนเอง ด้วยการใช้สติ สมาธิ และปัญญา ฝึกฝนขัดเกลาอยู่เสมอ ๆ เหลี่ยมใหญ่ที่เห็นก็จะค่อย ๆ เล็กลง มีเหลี่ยมมีมุมเพิ่มมากขึ้น จากสี่เหลี่ยมก็อาจจะเพิ่มเป็น ๘ เหลี่ยม ๑๖ เหลี่ยม ๓๒ เหลี่ยม ๖๔ เหลี่ยม ๑๒๘ เหลี่ยม ท้ายสุดก็กลายเป็นลูกกลม

เมื่อถึงเวลากลายเป็นลูกกลมแล้ว ก็สามารถที่จะเกลือกกลิ้งอยู่กับโลกนี้ได้ เรียกว่าไปได้ทุกสถานการณ์ เหมือนกับน้ำกลิ้งบนใบบัวใบบอน แต่ว่าไม่ได้ติดอยู่ในใบบัวใบบอนเหล่านั้นเลย ก็คือสามารถเอาศีล สมาธิ ปัญญา ของตนนั้น มาปรับใช้ให้กลมกลืนกับสภาพจริงในชีวิตประจำวันได้ โดยการรักษากาย วาจา และใจ ของตนให้อยู่ในกรอบ โดยเฉพาะในกรอบของศีลตามกำลังใจของตน ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ ศีล ๘ หรือว่ากรรมบถ ๑๐ แล้วขณะเดียวกันก็รักษาใจของตนเอาไว้ ระมัดระวังไม่ให้รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามากินใจของเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-07-2020 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา