"ไปถึงจุดนั้น ทั้งคณะ ๑๕ คน เหลืออาตมากับทิดเฟิร์ส ๒ คนอาตมาก็ยกหนอ..ย่างหนอ...เหยียบหนอต่อไป ข้างทางก็มีสารพัดสัตว์ บรรดานก กระรอก แม้กระทั่งแพะภูเขาออกมาอวดโฉมแบบไม่กลัวคนเลย พวกนกถ้าเราถืออาหารไว้ในมือ เขาจะบินมาโฉบจากมือเลย แสดงว่าเขาคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวมาก
บรรดาแพะภูเขาไม่สนใจคนหรอก หากินของเขาไปเรื่อย อาเจ๊บางคนก็ใจถึงเหลือเกิน เดินเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ แล้วก็เซลฟี่กับมัน อาตมายังนึก ๆ อยู่ว่า ถ้าเกิดดวงซวยแพะหันมาขวิดสักทีก็ได้ตกเขาตายกันบ้าง
เดินไป ๆ จนกระทั่งถึงสระน้ำใหญ่ เป็นปลายพื้นที่ชุ่มน้ำของทุ่งหญ้ารั่วหลง ดูนาฬิกา ๑๑.๑๐ น. นั่งกินตรงนี้ละวะ จะกินข้าวกล่องดูแล้วก็นั่งปลงอนิจจัง ๔ คนช่วยกันจะกินหมดหรือเปล่าหนอ ? แล้วเราก็เหลือกันแค่ ๒ คน ท้ายสุดกินแซนด์วิชก็แล้วกัน เอาจีวรพับ ๔ ปูลงไปแล้วก็นั่ง ฉันแซนด์วิชไปได้ยังไม่ถึงครึ่ง ทำไมก้นเย็น ๆ วะ ? ลุกขึ้นมาดูปรากฏว่าจีวรเปียกเป็นรูปก้นของเราเลย สมกับเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำจริง ๆ ทั้งที่เรานั่งลงไปบนพื้นแห้ง ๆ พักเดียวก็เปียกแล้ว ก็เลยต้องเปลี่ยนท่า เอาจีวรมาคลุมตัวแล้วนั่งยอง ๆ ฉัน
บรรดานักท่องเที่ยวก็ไม่ได้เกรงใจอาตมาเลย ผ่านมาเจอพระก็ถ่ายไว้ก่อน ทั้งวีดิโอ ทั้งภาพนิ่ง ทั้งมือถือ ทั้งกล้องจริง อาตมาก็นั่งเซ็งว่า งานนี้กูได้ออกเฟซบุ๊กท่ากำลังนั่งขี้แน่ ๆ เลย นั่งยอง ๆ กินอยู่ก็ดันถ่ายไปได้...!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2019 เมื่อ 12:40
|