ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 03-01-2022, 07:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,323 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะถ้าหากว่าเป็นเรื่องของการให้ทาน ต่อให้เป็นสังฆทาน วิหารทาน หรือธรรมทานก็ตาม ถ้าให้ไม่เป็น ผลเต็มที่ก็แค่กามาวจรสวรรค์ ก็คือเป็นเทวดานางฟ้าใน ๖ ชั้น ไปได้ไม่เกินนั้น ถ้าหากว่าให้ทานถูกวิธี ให้ประจำจนกระทั่งกลายเป็นความเคยชิน สามารถเกิดเป็นพรหมได้ ตามแต่กำลังความเคยชินของแต่ละคนที่ได้สร้างเอาไว้ แต่ถ้าให้ดียิ่งกว่านั้น ก็คือ มีอุเบกขาในการให้ทาน

หลายท่านอาจจะสงสัยตนเองว่า ก่อนหน้านี้ให้ทานเท่าไร ก็ไม่รู้สึกอิ่ม ไม่รู้สึกเบื่อ ชื่นอกชื่นใจมาก แต่ปัจจุบันทำไมเฉย ๆ กำลังใจของเราลดน้อยถอยลงหรือเปล่า ? ขอให้ทุกท่านโปรดเข้าใจว่า ถ้าท่านยังให้ทานตามปกติ กำลังใจก็ไม่ได้ถอยลง หากแต่สูงขึ้น อยู่ในระดับทรงฌานได้แล้ว ในเมื่อทรงฌานได้แล้ว ก็จะมีตัวอุเบกขาอยู่ในกำลังใจของตน เพราะว่าฌานสมาบัติทุกระดับ ถ้าไม่มีอุเบกขาอยู่ ก็ไม่สามารถจะทรงเป็นฌานใดฌานหนึ่งได้

ในเมื่อมีอุเบกขาอยู่ ก็แค่รู้ว่าดีก็ทำ ยังคงทำเป็นปกติ แต่ด้วยความที่กำลังใจทรงฌานแล้ว จึงก้าวผ่านตัวปีติ ตัวสุข ไปเป็นเอกัคตารมณ์ ในเมื่อเป็นเอกัคตารมณ์ กำลังใจประกอบด้วยอุเบกขา ความรู้สึกชื่นอกชื่นใจที่เคยให้ทานก็ไม่มีเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่แปลว่ากำลังใจของเราลดน้อยถอยลง หากแต่ก้าวหน้าขึ้นมากกว่าเดิม

คราวนี้การที่เราจะก้าวขึ้นมาถึงตรงจุดนี้ ก็คือการให้ทานโดยประกอบด้วยอุเบกขานั้น ก็มีน้อยมาก เพราะว่าหลายคนให้ทานแล้วก็ยังยึดติด "หลวงพ่อต้องใช้ของเรา" "หลวงพ่อต้องกินของเรา" ไม่อย่างนั้นรู้สึกว่าไม่ได้บุญ บางรายถึงขนาดตามเช็คเลยว่าของที่ให้ไป หลวงพ่อได้กินได้ใช้จริงหรือเปล่า ? นั่นยิ่งแสดงออกให้เห็นชัดว่ากำลังใจแย่มาก

การให้ทานนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้เป็นเพียงเจตนาคือความตั้งใจ ก็เป็นบุญแล้ว ก็คือถ้าเราตั้งใจทำบุญ จิตใจเราประกอบด้วยการสละออก ก็เป็นจาคานุสติแล้ว ถ้าหากว่าได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ก็เป็นทานบารมี แต่ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะยึดติด

อย่างเมื่อเช้านี้ที่เดินบิณฑบาตก็เช่นกัน ญาติโยมบางท่านเตรียมตัวช้า กระผม/อาตมภาพก็เดินเลยไป เขาวิ่งไล่ตามมา พูดง่าย ๆ ก็คือต้องใส่หลวงพ่อเท่านั้น สรุปว่าอานิสงส์ที่ควรจะได้เป็นแสนเท่าก็ลดลงมาเหลือแค่หนึ่งเดียว..!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2022 เมื่อ 08:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา