ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 03-01-2022, 07:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,293 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา ทุกวันอาทิตย์ทางชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน สภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ จัดให้มีโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ซึ่งอาทิตย์นี้นักท่องเที่ยวมากันมากเป็นพิเศษ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน

สาเหตุแรกก็คือ การที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาด ทำให้ต้องหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ไปนาน จึงเกิดอาการเก็บกด เมื่อถึงเวลาปล่อยให้เดินทางได้ ทองผาภูมิที่สามารถไปกลับในวันเดียวได้ ก็กลายเป็นเป้าหมายหนึ่งที่นักท่องเที่ยวตั้งความหวังเอาไว้ แล้วงานโครงการนี้ก็เท่ากับว่าทุกคนได้สร้างบุญรับปีใหม่ เราจึงเห็นนักท่องเที่ยวที่ต้องบอกว่าค่อนข้างจะมาก มาใส่บาตรกัน

ประการต่อไปก็คือ ภาพการทำโครงการการทำกิจกรรมนี้ มีปรากฏในสื่อต่าง ๆ แล้วแต่ผู้ที่ถ่ายแล้วนำไปลง ทำให้เกิดความสนใจขึ้นมา ปัจจุบันนี้ทางด้านจังหวัดศรีสะเกษได้เลียนแบบและทำตาม แต่ว่าของเขาโครงการน่าจะใหญ่กว่า เพราะว่าผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเป็นผู้นำเอง เพียงแต่ว่าจัดในวันทำงาน ไม่ได้จัดในวันหยุดหรือวันเสาร์-อาทิตย์แบบของวัดท่าขนุน

คราวนี้การที่ญาติโยมทั้งหลายมาทำบุญนั้น ขอให้ทุกท่านเข้าใจว่า ในเรื่องของทานบารมี ยังเป็นแค่บุญเบื้องต้นเท่านั้น การรักษาศีลและเจริญภาวนา ที่เป็นบุญเบื้องกลางและเบื้องปลายยังมีอยู่ การที่ท่านทั้งหลายส่วนหนึ่งถนัดแต่การให้ทาน สามารถทำบุญได้ทันทีทุกครั้งที่เห็นกองบุญการกุศลปรากฏอยู่เฉพาะหน้า แต่ถ้าหากว่าบอกให้รักษาศีล รู้สึกว่ามีกำลังใจที่ไม่เพียงพอ เห็นเป็นของยาก ทำไม่ได้ แล้วถ้าพูดถึงการเจริญภาวนาก็คือมืดแปดด้านไปเลย ไม่รู้ว่าเขาทำกันอย่างไร !?

เรื่องนี้ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก สำหรับประเทศไทยของเราที่ประชากร ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์นับถือพระพุทธศาสนา แต่เป็นการนับถือตามทะเบียนบ้านเสียส่วนใหญ่ น้อยคนที่จะทำตนให้สมกับเป็นพุทธศาสนิกชน หลัก ๆ ที่พบมาเลยก็คือ ทำบุญใส่บาตรปีละครั้งในวันเกิดของตนเอง หากว่าทุกคนลองคิดดูว่า
ถ้าระยะเวลา ๓๖๕ วัน แล้วเรากินอาหารครั้งหนึ่งจะอยู่ได้ไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2022 เมื่อ 08:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา