เมื่อได้ยินครูบาอาจารย์บอกดังนั้น กระผม/อาตมภาพก็ตั้งหน้าตั้งตาในการที่จะประพฤติปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความเป็นพระโสดาบันให้ได้ ตะเกียกตะกายอยู่นานปี จนกระทั่งออกจากวัดท่าซุงไป เริ่มต้นสร้างสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ปรากฏว่าหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคมาสั่งว่าให้สร้างล็อกเก็ตรูปของท่านสัก ๕,๐๐๐ เหรียญ แล้วท่านจะมาเสกให้
หลังจากนั้นเป็นต้นมา คำสั่งสร้างวัตถุมงคลก็มีมาเป็นระยะ เนื่องจากว่าช่วงนั้นต้องสร้างอาคารถาวรวัตถุที่สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ต่อเนื่องกันมาถึง ๑๐ กว่าหลัง ถ้าหากว่าไม่มีวัตถุมงคลตอบแทนให้กับทางเจ้าภาพก็ดูกระไรอยู่ กระผม/อาตมภาพจึงต้องสร้าง แล้วปรากฏว่าท่านที่นำไปใช้นั้น มีประสบการณ์มากตั้งแต่ล็อกเก็ตรูปหลวงปู่ปาน - หลวงพ่อฤๅษีฯ รุ่นแรก เป็นต้นมา จึงทำให้มีเสียงเล่าลือกันกว้างออกไปทุกที
จนกระทั่งภายหลัง เมื่อสร้างวัตถุมงคลออกมา ไม่ว่าจะกี่รุ่น ถ้าเป็นสิ่งที่พระหรือว่าครูบาอาจารย์สั่ง ก็จะโดนจองหมดในทันทีทันควันเกือบทุกครั้ง จึงทำให้เกิดเสียงเล่าลือกันในหมู่เพื่อนฝูงพระสังฆาธิการ แล้วก็นิมนต์ไปในงานปลุกเสกวัตถุมงคลในวัดวาอารามของตนกันบ้าง
เมื่อจบปริญญาโทแล้ว เริ่มทำการสอนหนังสือในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นห้องเรียนก็ดี หน่วยวิทยบริการคณะต่าง ๆ ก็ตาม ตลอดจนกระทั่งวิทยาลัยสงฆ์ต่าง ๆ บรรดาลูกศิษย์ที่ได้รับการนำให้เจริญพระกรรมฐานในช่วงปฏิบัติธรรมประจำปี ก็ยอมรับอยู่แต่กระผม/อาตมภาพคนเดียว โดยที่บอกว่าพระอาจารย์เหมือนกับรู้ใจ ให้กรรมฐาน นำกรรมฐานพอเหมาะพอดีทุกครั้ง
แม้แต่บรรดาพระเถระ ซึ่งตอนนั้นกระผม/อาตมภาพตอนนั้นเพิ่งจะ ๒๐ กว่าพรรษา ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ๓๐ กว่า ๔๐ พรรษา เมื่อผ่านการปฏิบัติธรรมไปได้ ๔ วัน ๕ วัน ก็ชักแถวกันมากราบ แม้กระผม/อาตมภาพจะห้ามว่า ท่านทั้งหลายพรรษามากกว่าไม่ต้องกราบ ท่านก็ไม่ยอม บอกว่า "ขอกราบในฐานะครูบาอาจารย์" เพราะว่าโดยปกติแล้ว ท่านทั้งหลายเหล่านั้นบอกเองว่า "ปกติแล้วพวกผมเป็นคนหัวแข็ง ยอมลงให้กับคนอื่นยากมาก แต่ว่าพระอาจารย์สามารถทำให้พวกผมกราบได้อย่างสนิทใจ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2022 เมื่อ 01:21
|