ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 07-07-2021, 22:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,282 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องของธรรมชาติ บาลีเขาบอกว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง
อาหาระ คือการกิน
นิททัง คือการนอน
ภะยะ คือความกลัวภัย
เมถุนะ คือการเสพกาม

สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง เป็นส่วนที่เหมือนกันของสัตว์และคนทั้งหลาย
ปะสุ ก็คือสัตว์
นะรานัง ก็คือคนทั้งหลาย

ธัมโมหิ เตสัง อะธิโก วิเสโส ธรรมเท่านั้นถึงทำให้คนเราแตกต่างออกไป
ธัมเมนะ วีณา ปะสุภิสสะมานา ดังนั้น..ธรรมจึงเครื่องจำแนกคนออกจากสัตว์ ก็แปลว่า ถ้าคนเราไม่มีศีลไม่มีธรรม ก็เป็นได้แค่สัตว์ชนิดหนึ่งเท่านั้นเอง..!

ฉะนั้น...ในส่วนที่เราต่างจากสัตว์ได้ เพราะเรามีศีลมีธรรม โดยเฉพาะศีล ๕ ภาษาบาลีเรียกว่า มนุสสธรรม ธรรมที่ทำให้คนเป็นมนุษย์ มนุษย์มาจาก มนะ คือใจ + อุสสะ คือสูง เป็นผู้มีใจอันสูง ก็คือมีใจที่ยึดอยู่ในศีลในธรรม ต่างจากสัตว์ทั่วไป

การที่เราละเมิดศีล ๕ ก็แปลว่าทำให้ความเป็นมนุษย์ของเราน้อยลง สมมติว่าศีล ๕ ข้อเป็นจำนวน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
ละเมิด ๑ ข้อ ความเป็นมนุษย์หายไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์
ละเมิด ๒ ข้อ ความเป็นมนุษย์หายไป ๔๐ เปอร์เซ็นต์
ละเมิด ๓ ข้อ ความเป็นมนุษย์หายไป ๖๐ เปอร์เซ็นต์
ละเมิด ๔ ข้อ ความเป็นมนุษย์หายไป ๘๐ เปอร์เซ็นต์
ถ้าละเมิดครบทุกข้อ ความเป็นมนุษย์ไม่เหลือเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-07-2021 เมื่อ 20:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา