เมื่อเราเห็นดังนี้แล้วว่า พระอัครสาวกอย่างพระสารีบุตรมหาเถระเจ้าก็ดี หรือว่าพระเถระในยุคใหม่หลังพุทธกาลมา อย่างหลวงปู่มหาอำพันก็ดี มีความกตัญญู คือรู้คุณของบิดามารดาครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ อย่างไร และได้กตเวที คือตอบแทนที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้ทำคุณแก่ตนอย่างไร เราทั้งหลายก็สามารถที่จะเลียนแบบปฏิปทาทั้งหลายเหล่านั้น โดยการปฏิบัติตนตาม จึงจะได้ชื่อว่าสมกับเป็นนักปฏิบัติอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะวันนี้เป็นวันสถาปนาราชวงศ์จักรี เราทั้งหลายต้องตั้งใจบำเพ็ญภาวนา ซึ่งเป็นการสร้างบุญกุศลสูงสุดในพระพุทธศาสนา ต้องชำระใจของเราให้ผ่องใส สะอาดอย่างที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ แล้วจะได้อุทิศส่วนกุศลนี้เพื่อเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ตลอดจนกระทั่งพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และอุทิศให้แก่พระสยามเทวาธิราช และเทพเจ้าที่รักษาศาลหลักเมืองทุกแห่ง ที่เหนื่อยยากต่อการปกปักษ์รักษาประเทศไทยของเราตลอดมา
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาหรือพิจารณากันตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 13-04-2012 เมื่อ 17:41
|