"เขาประกาศยอดว่า ปีนี้คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิมีพระภิกษุ ๔๐๐ กว่ารูปเศษ สามเณร ๑๐๐ กว่ารูป รวมแล้ว ๕๐๐ กว่ารูป ตำบลท่าขนุนเขต ๒ มีมากที่สุดคือ ๘๕ รูป แต่ ๘๕ รูปลบของวัดท่าขนุนไปเสีย ๕๒ รูปจะเหลือเท่าไร ? สรุปได้ว่านอกจากตำบลท่าขนุนเขต ๒ ที่มีวัดท่าขนุนสังกัดแล้ว ตำบลอื่น ๆ ทั้งตำบลรวมกันยังมีพระไม่เท่าวัดท่าขนุนวัดเดียว..!
ในเมื่อเขามาบวชกันมากเพราะต้องการจะปฏิบัติ เราจะไปใช้งานอื่นเขา เอาแต่ประโยชน์ของวัดไม่ได้ ต้องให้เขาได้ประโยชน์จากการบวชให้มากที่สุด
พอพวกเราได้ฟังเรื่องที่กล่าวมานี้ คงเห็นว่าการบวชพระในปัจจุบันนั้น ถ้าไม่ใช่วัดที่เน้นการปฏิบัติจริง ๆ หรือเจ้าสำนักท่านเห็นประโยชน์ของพระใหม่จริง ๆ การบวชในปัจจุบันแทบจะไม่ได้รับประโยชน์ในการบวชเลย แต่จะว่าก็ไม่ได้ เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีความอดทน
หลายต่อหลายรายบวชที่วัดท่าขนุนแล้วขอไปอยู่วัดอื่น เพราะทนต่อระเบียบของวัดท่าขนุนไม่ได้ อาตมาก็บอกกับท่านไปว่า อาตมาไม่สนับสนุนให้ลูกศิษย์ผิดศีล พระพุทธเจ้าท่านตั้งกฎไว้ว่า พระบวชใหม่ถ้าอยู่กับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ไม่ถึง ๕ พรรษา เรียกว่ายังไม่ได้นิสัยมุตกะ ห้ามเที่ยวไป ก็คือห้ามไปอยู่ที่อื่น
เพราะฉะนั้น..ถ้าบวชแล้วจะไปอยู่ที่อื่น ก็ไปบวชที่นั่นให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย ถ้าบวชแล้วจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องทนอยู่ไป ถ้าอยู่ครบ ๑ เดือน มีสิทธิ์ลาได้ ๗ วัน อยู่ครบ ๒ เดือน มีสิทธิ์ลาได้ ๑๕ วัน อยู่ครบ ๕ ปีมีสิทธิ์จะขอย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ถ้าคุณเห็นว่าศึกษาเรียนรู้เพียงพอที่จะรักษาตัวได้แล้ว ผมจะอนุญาตเอง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2012 เมื่อ 02:01
|