"ตอนนี้แม่ชีเคิ่ลก็มีแนวโน้มอย่างนี้ วันนั้นอาตมาก็เลยใส่ไปชุดหนึ่ง รู้สึกว่าอยู่วัดท่าขนุนแล้วไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถตัวเองทำอะไรเลย จึงขออนุญาตไปอยู่วัดเขาวง อาตมาบอกว่าไปได้เลย เดินทางวันนี้ได้ยิ่งดี..! ร้องอุ๊ยขึ้นมาทันที
ตัวอย่างมีก็คือโยมท่านหนึ่ง เป็นรุ่นพี่อาตมาอยู่ ๒ ปี เมื่อประมาณปี ๒๕๒๘ - ๒๕๒๙ เขาไปอยู่วัดท่าซุง หลวงพ่อท่านอนุญาตให้อยู่ได้ คราวนี้ถ้าไม่ใช่ช่วงวัดมีงาน งานอื่นก็มีไม่มาก เขาอยู่ไปได้ปีกว่า พอขึ้นปีที่ ๒ ขอลาหลวงพ่อไปอยู่วัดธรรมกายแทน บอกว่างานที่นั่นเยอะดี จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ไม่รู้หายเข้ากลีบเมฆไปไหน ?
น่าเสียดายที่คนฝึกกรรมฐานระดับที่เป็นครูสอนมโนมยิทธิแล้ว แทนที่จะซักซ้อมความชำนาญด้วยการสอนคนอยู่ทุกวัน กลายเป็นทิ้งไปทำงานอื่นแทน ในเมื่อการปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง เวลากิเลสตีกลับ รัก โลภ โกรธ หลงก็จะคืนมาหมด
จึงเป็นเรื่องที่ควรสังวรไว้ ไม่ว่าจะเป็นญาติโยมที่เพิ่งเริ่มปฏิบัติก็ดี หรือว่าพระใหม่ที่บวชเข้าไปก็ดี หน้าที่สำคัญที่สุดคือการภาวนา หน้าที่อื่นก็ทำแค่ตามที่ตนที่ได้รับมอบหมาย หมดจากหน้าที่ของตนเมื่อไร รีบกลับไปหาการภาวนาให้เร็วที่สุด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2012 เมื่อ 01:50
|