พระอาจารย์กล่าวแนะนำโยมท่านหนึ่งที่มาทำบุญว่า "คุณมนตรีนี่อยู่รับใช้หลวงพ่อมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเป็นฆราวาส ตอนช่วงนั้นมีอยู่ด้วยกัน ๔ - ๕ คน อยู่รอบ ๆ หลวงพ่อ ตอนช่วงที่แชร์ชม้อยล้ม ยังบอกกันว่า "พวกที่เขาเห็นหน้ากันอยู่ทุกเดือนนี่ห้ามหายหน้าไปอย่างเด็ดขาด ถ้าหายไปเมื่อไรนี่ คนอื่นเขาจะหายไปหมดเลย ถ้าเรายังยืนหยัดอยู่ คนอื่นก็จะได้เห็นว่าความมั่นคงของเรายังมี"
เพราะว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทดสอบลูกศิษย์ดุเดือดมาก ท่านไม่สนใจว่าคนจะมองอย่างไร เอาผลประโยชน์ของลูกศิษย์อย่างเดียว ทุกคนจะบอกว่าท่านทำนายผิด พูดผิด ท่านไม่สนใจทั้งนั้น ถ้าเขาไม่มีปัญญาก็เป็นเรื่องของเขา ท่านถือว่าอย่างนั้น อาตมาเองมองตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ เท่าที่ตัวเองปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อมามีผิดไหม ? ก็เห็นว่าทุกสิ่งที่ท่านสอนให้ทำ เป็นไปตามนั้นทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น..สิ่งที่ท่านสอนเราบอกเราไม่ผิด แต่เรื่องของอภิญญาสมาบัติอาจจะมีการเสื่อมได้ มีการหลอกกันได้ มีการพลาดได้ อาตมาไม่ถือเป็นสาระ
พอแชร์ชม้อยล้ม มีลูกศิษย์จำนวนหนึ่งตีจากหลวงพ่อไป อาตมาก็บวชเลย มีคนถามว่า “พี่ไม่รอแชร์หรือ ?” ก็อาตมาไม่ได้เล่น มีแต่พวกนั้นแหละยืมเงินไปเล่น ในเมื่ออย่างนั้นจะรอไปทำไม ? จึงบอกเขาว่า "รอไม่เกินปี ๒๕๓๕ ถ้าไม่ออก ตูก็ไม่สนแล้ว..!"
ตอนนั้นเพื่อนฝูงเห็นอาตมาไม่เล่น ก็มาขอยืมเงิน “พี่ไม่มีความโลภก็จริง แต่พวกผมยังต้องกินต้องใช้อยู่ ถ้าได้ดอกมา แบ่งให้พี่สักส่วนหนึ่ง อย่างน้อย ๆ พี่ก็มีความคล่องตัว ช่วยภาระหลวงพ่อได้มากขึ้น” เขาเกลี้ยกล่อมเก่งมากเลย ท้ายสุดอาตมาที่ไม่ได้เล่นแชร์สักนิดเดียว มีแชร์น้ำมันอยู่ในมือเกือบ ๑๐ คันรถ..!
เสียดายอยู่อย่างเดียว พออาตมาบวชแล้วพวกที่ยืมเงินไม่มีใครเข้าวัดเลย กลัวอาตมาจะทวง ถ้าอาตมาจะทวงก็ไปบ้านเขาเลย จะมาทวงอะไรที่วัดเล่า ? เขาไม่รู้คติของอาตมาว่า เงินพ้นมือไปถือว่าตกน้ำ ได้คืนมาคือกำไร ไม่ได้คืนมาก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-09-2012 เมื่อ 02:05
|