พระอาจารย์กล่าวว่า "การทำบุญที่จะได้อานิสงส์เต็ม ก็คือ
๑) เจตนาบริสุทธิ์
๒) ผู้ให้บริสุทธิ์
๓) วัตถุทานบริสุทธิ์
๔) ผู้รับบริสุทธิ์
เพราะฉะนั้น..เวลาจิตว่างจากรัก โลภ โกรธ หลงจริง ๆ ก็แปลว่าเป็นผู้ให้ที่บริสุทธิ์จริง ๆ ถ้าอย่างนั้นอานิสงส์ทางด้านนี้เต็ม ๒๕ เปอร์เซ็นต์แน่นอน ยิ่งถ้าบริสุทธิ์ได้ครบ ๔ อย่าง อานิสงส์ยิ่งเยอะ
แต่ปัจจุบันนี้ เจตนาบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ แต่ไปสงสัยว่าผู้รับจะบริสุทธิ์หรือเปล่า? เขาจึงต้องเลือกเนื้อนา ถ้าเลือกไม่ได้ก็ถวายเป็นสังฆทานไปเลย
สังฆทานทั้งหมดมี ๗ ประเภทด้วยกัน
สังฆทานประเภทที่ ๑ ถวายต่อหมู่พระภิกษุสงฆ์ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
สังฆทานประเภทที่ ๒ ถวายต่อหมู่ภิกษุณีสงฆ์ ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
สังฆทานประเภทที่ ๓ ถวายต่อหมู่ภิกษุและภิกษุณีสงฆ์ที่มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
สังฆทานประเภทที่ ๔ ถวายต่อหมู่ภิกษุที่นิมนต์มา
สังฆทานประเภทที่ ๕ ถวายต่อหมู่ภิกษุณีที่นิมนต์มา
สังฆทานประเภทที่ ๖ ถวายต่อหมู่ภิกษุและภิกษุณีที่นิมนต์มา
สังฆทานประเภทที่ ๗ ถวายโดยไม่เจาะจงบุคคล ขอให้ครบ ๔ รูปเป็นใช้ได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-04-2011 เมื่อ 11:44
|