พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยอาตมาเด็ก ๆ สัตว์ที่อยากเลี้ยงมากที่สุดก็คือเหี้ย แต่เป็นเหี้ยจอมโหดที่เขาเรียกว่า เหี้ยเห่าช้าง เห่าช้างเป็นเหี้ยที่พองคอขู่ได้ เขาเชื่อว่ามันร้ายขนาดกัดช้างยังล้ม

เห่าช้าง
อาตมารู้จักเห่าช้างครั้งแรกที่เขาดิน ไปเที่ยวเขาดินครั้งแรกในชีวิต เดินดูสัตว์ไปเรื่อย ไปเจอป้ายเขาเขียนว่าเหี้ยเห่าช้าง ก็เข้าไปดู เห็นเหมือนกับตะกวดตัวใหญ่ ๆ ตะกายอยู่บนดอกเห็ด เขาทำดอกเห็ดด้วยซีเมนต์ แล้วอยู่ใกล้ขอบบ่อ อาตมาก็เลยเอื้อมมือเข้าไปหา เห่าช้างก็ไต่ขึ้นมือมา อาตมาก็อุ้มเล่น พอเจ้าหน้าที่เห็นถึงกับตาค้างไปเลย เพราะเขาเชื่อว่าเห่าช้างร้ายขนาดกัดช้างยังตาย แล้วไอ้เด็กบ้านี่ดันไปอุ้มเอาไว้
อาตมาก็พาซื่อ เห็นว่าน่ารักดี ไม่ได้เห็นว่าดุ เจ้าหน้าที่เขาโวยวายใหญ่จึงต้องปล่อยคืนไป เขาก็คลานลงบ่อแต่โดยดี ทุกวันนี้อาตมาก็ไม่รู้ว่าเหี้ยเห่าช้างดุจริงหรือเปล่า ? แต่พวกพรานล่าสัตว์เคยบอกว่า โดนไล่วิ่งจนเตลิดเปิดเปิงมาหลายคนแล้ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2012 เมื่อ 17:06
|