พระอาจารย์กล่าวว่า "มีหลายคนที่ไม่รู้อันตรายของถนนเวลาฝนตก ถ้าฝนตกก็ให้ตกหนักไปเลย ถ้าแห้งก็ให้แห้งไปเลย จะทำให้ขับรถได้ง่าย แต่ถ้าถนนครึ่งเปียกครึ่งแห้ง จะทำให้ลื่นมาก หน้าถนนที่เราเห็นว่าสะอาด ความจริงมีโคลนบาง ๆ อีกชั้นหนึ่ง เป็นฝุ่นที่เกิดจากดินและท่อไอเสียเคลือบอยู่ พอโดนน้ำเข้าจะลื่นมาก โค้งที่เราเคยเข้าด้วยความเร็ว ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิดเดียว รถจะหมุนเลยเพราะถนนลื่น
อีกอย่างก็คือน้ำที่อยู่บนถนน โดยเฉพาะน้ำที่ท่วมถนนซีกเดียวจะอันตรายมาก ๆ เวลาเราวิ่งลงไป ล้อที่โดนน้ำจะฝืดโดยอัตโนมัติ เพราะน้ำจะไปหน่วงความเร็วของล้อไว้ เท่ากับเราเบรกรถไว้ข้างเดียว ถ้าความเร็วได้ระดับสัก ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เจอเบรกข้างเดียวรถจะหมุนเป็นลูกข่างไปเลย
ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่พอขับรถได้ก็ออกถนนเลย ทั้ง ๆ ที่ยังขับรถไม่เป็น ที่เล่ามานี้เพราะอาตมามีประสบการณ์หมุนกับถนนมาแล้ว เป็นถนนบนเขาค้อ ช่วงนั้นฝนตก คนขับรถก็ต้องเร่งความเร็ว เพราะมีผู้โดยสารอยู่กระบะท้าย ๓ – ๔ คน ถ้ารถวิ่งได้ความเร็วแล้ว ฝนจะบินเลยหลังคาไปหมด จะไม่ตกลงใส่กระบะ
แต่ปรากฏว่าตอนเข้าโค้ง ถนนครึ่งเปียกครึ่งแห้ง เป็นเรื่องเลย อาตมาก้มลงหยิบของ เห็นฉัพพรรณรังสีสว่างวาบ จึงบอกคนขับรถให้ระวังไว้ พูดไม่ทันขาดคำรถก็หมุนติ้วเลย พระท่านเตือนแล้ว แต่บางอย่างก็เตือนเร็วไม่ได้ บางอย่างเตือนช้าก็ไม่ได้ มีเวลารู้ตัวก่อนแค่ไม่กี่วินาที"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2012 เมื่อ 15:23
|