ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 08-08-2012, 08:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,712
ได้ให้อนุโมทนา: 158,648
ได้รับอนุโมทนา 4,491,123 ครั้ง ใน 36,321 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตัวจ้ะ ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติสมาธิทั้งหมดให้อยู่เฉพาะหน้า หายใจเข้า..เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ที่เราเคยทำถนัดมาแต่ดั้งเดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕ ตรงกับวันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ หลัง เป็นวันเข้าพรรษา ญาติโยมหลายคนอาจจะสงสัยว่าเข้าพรรษาแล้ว พระออกจากวัดมาได้อย่างไร ? ถ้าว่ากันโดยพระบรมพุทธานุญาต คือ ถ้ามีกิจจำเป็นที่พระองค์ท่านระบุเอาไว้ สามารถออกจากวัดได้ แต่ต้องไปไม่เกิน ๗ วัน เรียกว่าสัตตาหกรณียะ การมารับสังฆทานและสอนกรรมฐานนี้ เป็นไปเพื่อการเจริญศรัทธา ตรงกับพระบรมพุทธานุญาตข้อสุดท้ายพอดี

แต่ที่อยากจะกล่าวถึงในที่นี้ก็คือว่า ในช่วงเข้าพรรษานั้น ญาติโยมจำนวนมากต่อมากด้วยกัน ตั้งใจว่าเป็นช่วงเวลาของการทำความดี อย่างเช่น บางท่านที่ดื่มสุราเมรัยเป็นปกติ ตั้งใจว่าจะงดดื่มสุราเมรัยเพื่อเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา เป็นต้น

ในเมื่อญาติโยมทั่ว ๆ ไปยังตั้งใจอาศัยเวลาในการเข้าพรรษานี้ เป็นระยะเวลาของการเสริมสร้างความดีให้แก่ตัวเอง พวกเราทั้งหลายที่ถือว่าเป็นนักปฏิบัติ ก็ควรจะอาศัยระยะเวลานี้ เร่งรัดการปฏิบัติของตนเองให้เข้มข้นขึ้นไปอีก

อย่างที่เมื่อครู่ได้กล่าวถึงเรื่องของลุงบู๊ไปแล้ว ว่าลุงบู๊นั้น แม้จะปรารถนาพระโพธิญาณ และอยู่ในระดับแค่อุปบารมีเท่านั้น ยังมีการปฏิบัติที่เข้มข้นกว่าพวกเราหลายเท่า พวกเราที่หวังความหลุดพ้นที่จะไปพระนิพพาน ซึ่งเป็นกำลังใจในระดับปรมัตถบารมี สมควรที่จะต้องทำให้เข้มข้นยิ่งกว่า แต่ถ้าหากว่ากำลังใจของเราไม่พอ ไม่สามารถที่จะทอดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อปฏิบัติภาวนาแบบลุงบู๊ได้ ก็ให้เรากำหนดระยะเวลาที่แน่นอน

อย่างเช่นว่าตอนเช้าเราจะภาวนาให้ได้ ๑ ชั่วโมง ตอนเย็นเราจะภาวนาให้ได้ ๑ ชั่วโมง เป็นต้น อย่าลืมว่าระยะเวลาทั้งกลางวันกลางคืนรวมแล้ว ๒๔ ชั่วโมง ถ้าเราสามารถฝืนต่อต้านกิเลสได้ เช้า ๑ ชั่วโมง เย็น ๑ ชั่วโมง ก็แปลว่าอีก ๒๒ ชั่วโมงนั้น เราขาดทุนมาโดยตลอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2012 เมื่อ 11:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา