แล้วให้ทุกคนกำหนดดูลมหายใจเข้าออกของตน ถ้ายังมีลมหายใจ ยังมีคำภาวนาอยู่ ก็ให้กำหนดดูลมหายใจ และคำภาวนาไป ถ้าหากลมหายใจเบาลง ก็ให้กำหนดรู้ว่าลมหายใจเบาลง ถ้าคำภาวนาหายไป ก็ให้กำหนดรู้ว่าคำภาวนาหายไป ถ้าไม่มีทั้งลมหายใจ ไม่มีทั้งคำภาวนา ก็ให้กำหนดรู้ว่าขณะนี้สภาพจิตไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา ให้ตามดูอยู่อย่างนั้น
ไม่ต้องไปดิ้นรนอยากจะหายใจใหม่ และไม่ต้องไปดิ้นรนอยากให้พ้นจากสภาพนั้น ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ สภาพจิตเราก็จะดิ่งลึกไปเรื่อย จนกระทั่งสามารถทรงฌานเต็มระดับที่เราต้องการ แต่ให้กำหนดใจไว้ว่า ไม่เกินตีสี่ครึ่ง เราจะถอนกำลังใจออกมา ไม่เช่นนั้นถ้ากำลังใจของเรา เข้าสมาธิลึกจนเกินไป บางทีเวลาจะผ่านไปโดยไม่รู้ตัว
สำหรับตอนนี้ก็ให้ทุกคนกำหนดใจจดจ่ออยู่กับภาพพระ จดจ่ออยู่กับการพิจารณา จดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก ถ้าไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา ก็ให้จดจ่ออยู่กับการรู้สภาพที่นิ่ง ใส สว่าง สงบอยู่อย่างนั้น จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน งานบวชเนกขัมมะรุ่น ๑
๒ กันยายน ๒๕๕๓
(ถอดจากเสียงเป็นตัวอักษร โดย เถรี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2012 เมื่อ 12:28
|