กรณีศึกษา คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป
หลวงพ่อบอกคาถาบทนี้ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๐
คาถาบทนี้ ท้าวเวสสุวัณมาให้ ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุกคืน ก่อนอื่นให้ระลึกถึงบารมีของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ อันมีสมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเป็นประธานเพราะท่านเป็นเจ้าของคาถานี้
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ
บทในบรรทัดที่ ๒ นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกอะไรให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้นะ แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว
อีกบทหนึ่งของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ
ทั้งสามบทนี้ ท่านให้สวดพร้อมกันเลย เวลาฉันข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้นะ ภาวนาไว้สักครู่ เช้าเย็นอะไรนี่นะ ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอง
สำหรับบทหลังศัตรูทำอะไรไม่ได้ จะทำอะไรแล้วเราจะต้องรู้อยู่เสมอ บทกลางนะทำลายโรค ได้ทำลายโรคนี้ดีใช่ไหม เสกข้าวนะ ข้าวที่เราจะฉัน
เสกซะหมด(คำเดิมคัดลอกจากหนังสือ) และคนอื่นกินก็เป็นยาไปหมด ให้เป็นยาสำรับคนอื่นด้วยนะ ดีไหม ถ้าเห็นว่าดี ถ้าคุณจะให้ศึกษานี่นะ
ถ้าจะให้รักษาโรค คุณจะต้องหาดอกบัว ๓ ดอก ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม บูชาท่านต่อพระพุทธรูป
ถ้าใครต้องการจะให้เรารักษา ต้องบังคับให้เขาเอาดอกบัวมา ๓ ดอก ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม เสกน้ำมนต์ เสกอะไร ให้กินได้ นั่งทำก็ได้ นอนทำก็ได้ ภาวนาให้เป็นฌาน เป็นฌานในกรรมฐานภายในตัวเสร็จ อย่าลืมนะ พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เกาะก็ได้ผลเท่ากันเป็นฌาน
คัดลอกจากหนังสือ "สมบัติพ่อให้"
ผมได้รับสายจากลูกค้าที่คุ้นเคยกันดีแจ้งว่าที่เคยดูดวงไว้จะป่วยเป็นเนื้องอกหรือโรคภายในผู้หญิงตอนนี้เป็นแล้ว อยากจะให้ช่วยรักษาให้ด้วยตามวิธีการพุทธคุณรักษาโรค
กระแสเข้ามาให้ลองใช้คาถาของสมเด็จพระพุทธกัสสป ผมแจ้งลูกค้าให้นำดอกบัว ๓ ดอก เทียนหนึ่งเล่ม(หนักหนึ่งบาท) ธูปห้าดอก จัดเข้ามาไหว้พระ
วันรุ่งขึ้นเธอมากับเพื่อนด้วยสีหน้าหมองคล้ำ จำได้ว่าคราวที่แล้วเธอเคยมาที่ออฟฟิศมีอาการมึนหัว แสดงว่าเธอโดนกระทำมาครั้งนั้นขอหลวงปู่แผ่บุญให้ อาการหายป่วยทันที มาครั้งนี้หนักกว่าเดิม
เธอบอกว่ามีอาการปวดท้อง ไปหาหมอแผนปัจจุบันผลตรวจมีเนื้องอกในกระเพาะอาหารหมอนัดตรวจอีกครั้งอาทิตย์หน้า วันนี้นำดอกบัวมาทำพิธีและขอให้ช่วยรักษาให้ด้วย
เนื่องจากลูกค้าท่านนี้เคยร่วมบุญกับผมอยู่ประจำทำบุญสร้างพระ สร้างศาลา สร้างหลวงพ่อทวด กระแสบุญเห็นว่าน่าจะช่วยเหลือได้ จึงขอบารมีหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ท่านช่วย
ให้ผู้ป่วยพนมมือถือดอกบัว ธูป เทียน
๑. กล่าวคำมอบกายถวายชีวิตแด่พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
๒. กล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัย
๓. อาราธนาศีล ๕
๔. ท่องคาถาของสมเด็จพระพุทธกัสสป น้อมจิตน้อมใจขอให้ท่านรักษาโรค
หลังจากกล่าวคาถาแล้วเป็นการใช้พระขรรค์ในการรักษาโรค พระขรรค์โสฬส เนื้อเงิน วัดท่าขนุน
ให้ผู้ป่วยนั่งเหยียดปลายเท้าไปทางทิศตะวันตกหรือทางน้ำไหล
ใช้พระขรรค์แต่ไล่ตั้งแต่ศีัรษะจรดปลายเท้า พร้อมท่องคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ต่อด้วย นะโมพุทธายะ
อิติปาระมิตา ติงสา
อิติสัพพัญญู มาคะตา
อิติโพธิ มะนุปปัตโต
อิติปิโส จะเตนะโม
นะโมพุทธายะ
ขณะที่ใช้พระขรรค์รู้สึกว่าให้ใช้พระขรรค์แทงลงไปที่ท้อง พระขรรค์ยืดออกมาทิ่มไปที่ท้องจี้เข้าไปตรงเนื้องอก ลำแสงสว่างเหมือนคลื่นไฟฟ้าผ่านเข้าไปที่เนื้องอก จากที่ใหญ่โตค่อย ๆ เล็กลงไปเรื่อย ๆ จนเท่าเมล็ดถั่วเขียว ใช้ปลายพระขรรค์เขี่ยออกจากตัวผู้ป่วย ภาพค่อย ๆ เลือนหายไป
ผมมองไปที่พระขรรค์ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตอย่างที่รู้สึกยังด้ามจิ๋วแต่แจ๋วเหมือนเคย ผมบอกผู้ป่วยไปอาการน่าจะดีขึ้น ให้กินน้ำมนต์ควบคู่ไปด้วยเพราะน่าจะเป็นการทางไสยศาสตร์ด้วยจึงได้มอบวิธีการทำน้ำมนต์และน้ำมนต์เสาร์ห้า พิธีเป่ายันต์เกราะเพชรให้ไปหนึ่งขวด พร้อมพระหลวงปู่ทวดหนึ่งองค์
หลังจากนั้นผ่านไปได้สิบวัน ได้รับแจ้งข่าวว่าอาการหายดีแล้วไม่ต้องไปหาหมอขอบคุณมาก ๆ งงงันไปสักพักสอบถามอีกทีทำไมถึงหายป่วย
หลังจากกลับไปได้สองวัน ตกกลางคืนมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ปวดบิดปวดทรมานคิดว่าต้องตายแน่ ๆ คว้าน้ำมนต์ได้ขอพระท่านช่วยกินน้ำมนต์เข้าไปเกิดอาการอ้วกออกมา มีกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง สิ่งที่อ้วกออกมามีสีดำน่าขยะแขยง อาการดีหายปวดท้อง เมื่อครบกำหนดไปหาหมอเพื่อผ่าตัด เนื้องอก ผลเอ็กซเรย์ออกมาไม่มีเนื้องอกแถมสุขภาพดีขึ้น
ผมสงสัยว่าอาการเหมือนจะถูกไสยศาสตร์เล่นงานมา วันนั้นที่ออฟฟิศให้กินน้ำมนต์ ใช้พระขรรค์ ทำไมไม่ออกถึงไปออกที่บ้าน
หลวงปู่ท่านเมตตาบอกว่า ตอนมารักษากับผมนั้นผู้ป่วยยังลังเลอยู่ว่าจะหายหรือไม่ ศรัทธายังไม่เต็ม พอใกล้จะตายเกาะพระเต็มร้อย
จริงอย่างหลวงปู่ท่านว่า คนเราจะเข้าหาพระ จะเกาะพระด้วยใจเต็มร้อยตอนที่เกิดทุกข์ ยิ่งความเป็นความตายก็จะเกาะพระแน่น
ศรัทธา เป็นตัววัดผลของการรักษา ยิ่งศรัทธามากเท่าไร ผลก็จะเกิดมากเท่านั้น