ให้ทุกคนนึกถึงลมหายใจเข้าออกพร้อมกับคำภาวนา ดูไปด้วยว่าแม้แต่ลมหายใจเข้าออกก็ไม่เที่ยง ผ่านจมูก ผ่านอก ลงไปสุดที่ท้อง ออกจากท้อง ผ่านอก มาสุดที่ปลายจมูก ไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอนเลย เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราต้องใช้ความพยายามในการกำหนดดู กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ก็คือเรากำลังอยู่ในกองทุกข์ และท้ายที่สุดแม้กระทั่งลมหายใจนี้ ก็ต้องเสื่อมสลาย คืนกลายเป็นสมบัติของโลกไปตามเดิม ก็แปลว่าแม้แต่ลมหายใจเราก็ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเราเช่นกัน
ถ้าหากว่าต้องตายลงไปจะด้วยอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ หรือด้วยการหมดอายุขัยก็ตามที เราขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระนิพพานแห่งเดียว เอาใจของเราจดจ่ออยู่ที่พระนิพพาน ใครสามารถยกจิตขึ้นไปพระนิพพานได้ ให้ยกจิตขึ้นไปกราบพระข้างบน ถ้าหากว่าท่านใดไม่ชำนาญก็ให้กำหนดนึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบ ว่านั่นเป็นองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเห็นท่านคือเราอยู่กับท่าน เราอยู่กับท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน ให้ประคับประคองรักษาอารมณ์อย่างนี้เอาไว้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2012 เมื่อ 18:44
|