ถาม : คนที่หวงของหวงทรัพย์สิน กับพ่อแม่ที่หวงลูก เหมือนกันไหมคะ ?
ตอบ : คนละอย่างกัน การหวงมากหรือหวงน้อยขึ้นอยู่กับว่ายึดมั่นมากหรือน้อย พ่อแม่ที่หวงลูกนอกจากจะเป็นความรู้สึกของการหลงแล้ว ยังเป็นสัญชาตญาณด้วย เพราะว่าถ้าไม่หวงไม่ดูแลลูก พวกลูก ๆ ไม่ว่าจะเป็นลูกคนหรือลูกสัตว์อาจจะไม่รอด ถ้าลูกตายหมดก็ไม่เหลือพืชพันธุ์ของตนไว้ เพราะฉะนั้นกลายเป็นหวง ๒ ชั้น ถ้าหวงของนั่นหวงแค่ชั้นเดียว
ถาม : แล้วคนที่ขาดเมตตา ใจดำ ?
ตอบ : ขึ้นอยู่กับคนคิด จริง ๆ แล้วคนใจดำเป็นพวกเห็นแก่ตัว ไม่เอาใคร บางทีเราเอาแต่คิดว่าจะไปขอความช่วยเหลืออย่างเดียว เขาเองไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยได้ เขาปฏิเสธมา เราก็ไปว่าเขาใจดำ เรื่องพวกนี้อยู่ที่ความคิดของเรา ถ้าเอาใจเขามาใส่ใจเรา หรือไม่ก็ถามเขาหน่อยว่าเป็นอย่างไร เราก็จะรู้ความคิดของเขา
ถาม : จริง ๆ แล้วก็ไม่แน่ว่าจะใจจืดใจดำ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วต้องมีความจำเป็น ยกเว้นเป็นประเภทตระหนี่ถี่เหนียวแบบโกสิยเศรษฐี โกสิยเศรษฐีขี้เหนียวสุด ๆ ประหยัดทุกวิถีทางเพราะกลัวจน ทั้ง ๆ ที่เป็นมหาเศรษฐี
ถาม : หวงโดยเฉพาะของของเขา ?
ตอบ : ก็เขาบอกแล้วว่าของของเขา ในเมื่อเป็นของของเขา เขาก็ต้องรักษา จะไม่แบ่งปันให้ใคร ในเพลงแหล่เขาว่า "...ทนอดทนอยาก มีปากเสียเปล่า เมียบ่นหิวข้าว ผัวเฒ่าตีดิ้น กลัวยากกลัวจน ยอมทนอมลิ้น เมียกลัวเหงื่อริน ก็เลยเป็นลม"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2012 เมื่อ 03:51
|