ดูแบบคำตอบเดียว
  #90  
เก่า 23-04-2012, 07:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,379
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,234 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มาถึงยุคนี้..หลวงพ่อเจ้าคณะใหญ่หนกลางรูปปัจจุบัน ท่านพยายามผลักดันและต้องการให้มีกองวิปัสสนาธุระ เพื่อจะได้มีงบประมาณสนับสนุนอย่างเป็นทางการ เพราะว่าการศึกษาในพระพุทธศาสนานั้น ก็คือศึกษาทั้งปริยัติและปฏิบัติ

ด้านปริยัติคือการศึกษาตำรานั้น มีแม่กองธรรมสนามหลวงแล้ว ก็คือศึกษานักธรรมตรี โท เอก มีแม่กองบาลีสนามหลวง ก็คือศึกษาเปรียญธรรมประโยค ๑ - ๙ ก็แปลว่าฝ่ายปริยัติธรรมมีแม่กอง ๒ แม่กอง แต่ว่าฝ่ายปฏิบัติไม่มีเลย จึงอยู่ในลักษณะต้องอาศัยกำลังของเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ ช่วยกันผลักดันให้เกิดกองวิปัสสนาธุระ ที่มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากองธรรมสนามหลวงและกองบาลีสนามหลวงขึ้นมา

คาดว่าถ้าตั้งสำเร็จ แม่กองวิปัสสนาธุระรูปแรกก็น่าจะเป็นหลวงพ่อสมเด็จฯ หนกลาง นี่ถือว่าเป็นความก้าวหน้าอย่างหนึ่ง แม้ว่าการปฏิบัติธรรมทุกวันนี้อยู่ในลักษณะคล้าย ๆ กับเป็นแฟชั่น ก็คือมีคนดัง มีดาราเข้ามาปฏิบัติกันมาก เหมือนอย่างกับว่าถ้าใครไม่ทำก็ตกยุค แต่ว่าพวกเราก็จะฉวยโอกาสนี้ผลักดันให้มีกองวิปัสสนาธุระขึ้นมา เพื่อจะได้เข้มแข็งเหมือนในอดีต แต่ว่าคงไม่ต้องเข้าแข่งขันกันเหมือนสมัยก่อนที่พระปฐมเจดีย์นะ

มีอยู่ยุคหนึ่งที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส กำหนดให้พระเกจิอาจารย์มาแสดงฝีมือแข่งกัน จะได้มั่นใจว่าการปฏิบัตินั้นมีผลจริง ๆ ท่านเอากบไสไม้มาวางไว้บนท่อนไม้ นิมนต์พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยในยุคนั้นทั้งหมดมารวมกัน นั่งภาวนาบังคับกบไสไม้ให้ได้ ปรากฏว่าบางท่านที่มีความคล่องตัวก็สบายมาก ทำให้กบไสไม้ไสปรื๊ดกลับไปกลับมาได้ บางท่านกบไสไม้ก็กระโดดเป็นกบจริง ๆ

แต่ว่าหลายท่านที่มีชื่อเสียงทำไม่ได้ เพราะว่าท่านถนัดแค่วิชาการบางอย่าง แต่ไม่ชำนาญในกสิณ ๑๐ ไม่สามารถจะบังคับให้กบไสไม้ให้ไสไปมาได้ นี่เท่ากับว่าเสียเลยนะ ทั้ง ๆ ที่ท่านเก่งจริง แต่ว่าเก่งคนละด้าน ไม่ได้ฝึกกสิณ ๑๐ มา โดยเฉพาะกสิณลม ก็เรียบร้อย ไปไม่รอด แต่ว่าหลายท่านก็ประเภทดำน้ำไป บังคับให้เคลื่อนปรื๊ด ๆ อย่างคนอื่นไม่ได้ ก็เล่นกระโดดเลย เพราะว่าประเภทใช้พลังจิตบังคับ กระโดดได้ สั่นได้ เต้นได้ ช่วงนั้นเขาไปแข่งขันกันที่พระปฐมเจดีย์ สถานที่กว้างพอ กองเชียร์เข้าไปดูกันได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2012 เมื่อ 11:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา