ความรู้สึกจากการบวชรุ่น ๔/๒๕๕๕
๑. ความเสียสละและความมีน้ำใจของเพื่อนร่วมทริป
รถตู้บริการจากเว็บพลังจิตมีผู้ร่วมทริป ๓๓ คน (ปกติจัดให้นั่งคันละ ๑๐ คน) ดังนั้นจึงต้องจัดที่นั่งให้บางคนนั่งเบียดแถวหลัง ๔ คน ซึ่งคนที่ต้องนั่งเบียดก็เต็มใจและยินดีที่จะลำบาก เพื่อให้เพื่อน ๆ อีก ๓ คนได้ไปบวชด้วย นอกจากนั้นหลาย ๆ คนยังได้แบ่งโควต้าพระปิดตา จัมโบ้ ให้ผมและพี่ ญ.ผู้หญิง เพื่อนำไปต่อบุญ บางคนให้สิทธิ์ บางคนให้พระ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่เราเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยความรู้สึกแบบนี้ครับ
๒. การมีโอกาสทำบุญร่วมกันกับกัลยาณมิตรทั้งหลาย
หลายครั้งที่ผมมักจะเอาป้ายเว็บพลังจิตไปใช้ในการถ่ายรูปเพื่อสร้างภาพ ซึ่งเหตุผลสำคัญ คือ การประชาสัมพันธ์ให้คนที่กำลังใจอ่อนเข้าใจว่า การมาวัดไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อและเป็นเรื่องสนุก โดยเฉพาะการมีเพื่อนใหม่ และได้ร่วมบุญกับเพื่อนใหม่ ซึ่งหลายท่านกลายเป็นเพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันในอนาคต

ร่วมกันปักให้เต็มต้นผ้าป่าครับ

ร่วมกันชำระหนี้สงฆ์ก่อนกลับ ๓,๖๐๐ บาท
๓. การได้รับการชี้แนะจากครูบาอาจารย์
รอบนี้พระอาจารย์เล็กเมตตาควบคุมการฝึกกรรมฐานด้วยตนเอง ท่านเมตตาแนะนำตั้งแต่การนั่ง การหายใจ การพิจารณา ฯลฯ ตัวผมเองโดนท่านสะกิดไป ๓ รอบ รอบละ ๒ ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งที่ท่านสะกิดนั้น ภาพพระทองคำก็ปรากฏขึ้นที่หน้า (ถ้าโดนท่านเตะ สงสัยจะจำติดตา ติดใจแน่ ๆ ๕๕)
๔. ค้นพบกิจกรรมใหม่นอกวัด
หลังจากทดลองพาผู้ร่วมทริปซื้อปลาที่ตลาดไปปล่อยที่แม่น้ำ (จุดชมวิว) ซึ่งต่อมาก็มีการรวมกลุ่มกันไปปล่อยปลา ปล่อยกบ ฯลฯ เป็นจำนวนมาก โดยผมคิดว่า เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากครับ
หมายเหตุ : ส่วนพี่ ญ.ผู้หญิง เตรียม "ปล่อยพระ (ให้เช่า)" เพื่อต่อบุญ ซึ่งอานิสงส์สูงมาก ๆ ครับ
๕. เป็นทริปที่อยากจะบอกว่าเหนื่อยมาก ๆ
แม้ทริปนี้จะปฏิบัติเพียง ๒ รอบ แต่อากาศร้อนมาก ๆ ดังนั้นหลายท่านจึงเป็นไข้ ไม่สบาย แต่ทุกท่านวางกำลังใจที่จะปฏิบัติบูชา

ก่อกองทรายก็เหนื่อยเหมือนกัน
๖. สิ่งประทับใจสุดท้าย คือ มีโอกาสแสดงความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์
ในวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๕ พวกเราได้ร่วมกันถวายทองคำครึ่งสลึง เพื่อบูชาครู (พระอาจารย์เล็ก) แม้จะเป็นทองคำเพียงครึ่งสลึง แต่สำหรับพวกเราแล้ว มันมากมายมหาศาล
ท่านจิตโตเมตตาสอนไว้ ซึ่งผมสรุปจากความจำได้ว่า ทองคำเป็นธาตุบริสุทธิ์เป็นของเลิศที่พวกเราจะหาได้สำหรับการบูชาครู และทองคำที่เราตั้งใจถวายไว้ในพระศาสนานั้น แม้จะสิ้นสุดศาสนานี้ไป แต่ทองคำเป็นธาตุที่เสื่อมสลายยากและจะคงอยู่ในโลกใบนี้ ซึ่งวันหนึ่งก็จะถูกนำกลับมาใช้บูชาคุณพระรัตนตรัยในศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ต่อ ๆ ไป ดังนั้นการถวายทองคำจึงมีอานิสงส์มาก
ดังนั้นการมีโอกาสถวายทองคำเพื่อบูชาคุณพระอาจารย์เล็ก จึงเป็นเรื่องที่เป็นมงคลสำหรับพวกเราในฐานะลูกศิษย์

ขอบคุณพานสวย ๆ ฝีมือ "ป้านุช" และสมุนครับ

สำหรับผมนั้น "ทองคำ" มีความหมายว่า เป็นสิ่งบูชาครูที่มาจากเงินของพวกเราคนละเล็กละน้อย หนึ่งบาท สองบาท ห้าบาท ฯลฯ จะเหรียญเก่าเหรียญใหม่ แบงค์เก่า แบงค์ใหม่ แต่สุดท้าย
เมื่อเรานำมันมารวมกันก็จะเป็นทองคำบริสุทธิ์ ที่สามารถนำมาใช้บูชาครูได้ครับ ดังนั้น เพื่อทำความดีถวายครูบาอาจารย์ของเรา
"พวกเราต้องรักกันให้มาก ๆ ครับ" หรือ
"ถ้าทำใจให้รักกันไม่ได้ ก็อย่าสร้างความลำบากใจให้กันและกันนะครับ"
๗. เรื่องสุดท้ายที่อยากทำ คือ "คู่มือบวชเนกขัมมะ วัดท่าขนุน"
ช่วงหลัง ๆ เริ่มปล่อยผู้บวชเนกขัมมะที่มาพร้อมทริปดูแลตนเอง แต่เกรงจะสร้างความวุ่นวายให้กับคนในวัด ดังนั้นจึงตั้งใจที่จะหาเวลาว่างนั่งเขียนคู่มือการปฏิบัติตนเล่มเล็ก ๆ ในวัดว่า เมื่อมาบวชแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง และไปที่ไหนได้บ้าง คนจะได้อ่านแล้วเข้าใจ ซึ่งจะช่วยลดภาระให้กับผู้ดูแลและลดการปฏิบัติตัวที่ไม่เหมาะสมในวัดได้ครับ
เรื่องนี้ตั้งใจจะทยอยเขียนให้เสร็จก่อนเข้าพรรษา (ต้นทุนผลิตแบบถ่ายเอกสารน่าจะเล่มละ ๕ บาทครับ เดี๋ยวผลิตและแจกฟรีให้)
เขียนเท่านี้ก่อนครับ เพราะวันนี้ยกแขนไม่ขึ้นครับ ปวดร้าวไปทั้งตัว
แถม "ปวดใจ" ด้วย ๕๕๕ (ขำ ๆ กันวันละนิดนะครับ)