ฉบับที่แล้ว ๆ มา......พระอาจารย์เคยพูดถึงต้นเหตุแห่งความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยซึ่งมาพร้อมกับสายไฟฟ้าที่เข้าสู่หมู่บ้านในชนบท (เกือบ ๓๐ ปีแล้ว) ผมยังจำความรู้สึกตอนที่เป็นเด็กได้ มีความรู้สึกดีใจมากที่จะมีโอกาสได้ดูทีวีให้เต็มที่ สมกับความอยากรู้อยากเห็นของเด็กในวันนั้น...(เทียบกับสมัยนี้คงเหมือนกับเด็กที่ติดเกมส์) นับจากวันนั้น จนถึงทุกวันนี้ น่าสังเกตว่า ข่าวที่ยืนยงเคียงคู่กันมาทุกยุคสมัยในทีวีไทย คือ ข่าวสงคราม กับข่าวในพระราชสำนัก เสมือนธรรมะกับอธรรมะที่ต่อสู้กันอยู่ทุกยุคสมัย แม้จะมีข่าวกีฬาที่ยืนยงมาด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นสงครามกีฬา หรือสามัคคีกีฬากันแน่...ปัญหาที่มาพร้อมกับความทันสมัย คงไม่ใช่ความหลงมัวเมาในวัตถุเพียงอย่างเดียว แต่ความสะดวกสบายก็ได้กลายเป็นปัญหาเสียเอง และทำให้น้ำอดน้ำทนของคนลดลงไป กลายเป็นคนบอบบาง....ไม่สู้...แล้วก็....อ้วน....เอ้อ..บ่นไปเรื่อย ๆ ก็เข้าตัวเองจนได้ เรื่องของโลกก็คงเป็นไปตามธรรมดาของโลก เรื่องของตัวเองถ้าปล่อยไปตามธรรมดาโลก...ก็คงไม่พ้นความเลวไปได้....คิดเช่นนั้นกันไหมครับ?
--------------------------------------------------------
๑๕ ตุลาคม ๒๕๒๘
น้องหญิงจ๊ะ...
ขอโทษที่ตอบ จ.ม.ช้า ขอตอบเรื่องเหตุการณ์อนาคตก่อน ถ้ามันไม่ดี เราก็ถามพระ, พรหม, เทวดา องค์ใดองค์หนึ่ง ว่าต้องแก้ไขกันอย่างไร แล้วทำตามที่ท่านบอก ก็สามารถเปลี่ยนร้ายเป็นดีได้ ซึ่งทั่ว ๆไป เขาเรียกว่า แก้กรรม ถ้าให้คนอื่นดู (ทำ) เขาคิดค่าดู (ทำ) แพงมาก เราทำเองได้ไม่ต้องง้อใคร
เริ่มหนาวแล้ว อย่าท่องหนังสือดึกเกินไป ถูกความเย็นเข้าจะไม่สบาย ฉบับนี้ขอจบแค่นี้นะจ๊ะ
ด้วยรัก
พี่เล็ก
__________________