มีเด็กมาขอวัตถุมงคลเนื่องในวันคล้ายวันเกิด พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเด็ก ๆ เราควรทำให้เขารู้สึกว่ามาวัดหรือมาหาพระแล้วได้อะไรไปบ้าง โดยเฉพาะในวันเกิดของเขา
เด็กรุ่นหลังนี้วันเกิดเป็นเรื่องสำคัญ บางคนเป็นเด็กอนุบาลอยู่ ยังไม่ทันจะรู้เรื่องเลยก็จัดงานวันเกิดแล้ว บางทีเด็ก ๆ เขามาจัดงานวันเกิดให้อาตมา เขาปักเทียนแบบที่เป่าแล้วติดใหม่ ช่วยกันจุดกลั่นแกล้งหลวงตา อาตมาเป่าพรวดเดียวเทียนดับเกลี้ยง เด็ก ๆ บอกว่าหลวงตาใช้ไสยศาสตร์ แล้วสงสัยว่าอาตมาเป่าดับได้อย่างไร เพราะตัวเขาเองเป่าเท่าไรก็ไม่ดับ พอดับแล้วก็ติดใหม่
คนสมัยก่อนจะจัดงานวันเกิดก็ต่อเมื่ออายุครบ ๖๐ ปี เพราะว่าการสาธารณสุขต่าง ๆ ช่วงนั้นยังไม่เจริญ คนมักจะตายตั้งแต่อายุน้อย ๆ อีกอย่างหนึ่งเขานิยมแต่งงานกันตั้งแต่อายุ ๑๖ ปี ฉะนั้น..คนสมัยก่อนพออายุ ๓๐ ปีนี่ดูแก่มากเลย อายุ ๖๐ ปีก็คือคุณปู่ คุณตา คุณทวดแล้ว จึงมีการจัดงานวันเกิดแล้วก็จัดงานทำบุญ
คนจีนเขาเรียกวันเกิดว่า "แซยิด" จริง ๆ เขานิยมจัดแซยิดตอนอายุ ๖๐ ปี พอจัดงาน ๖๐ ปีไปแล้ว ต่อไปก็อยู่ในลักษณะแบ่งเป็น ๒ อย่าง อย่างหนึ่งก็คือจัดทุก ๑๐ ปี เช่นว่า ๗๐, ๘๐, ๙๐ อีกอย่างหนึ่งก็จัดทุก ๑๒ ปี ก็เป็น ๗๒, ๘๔, ๙๖ เป็นต้น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:22
|