พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยเด็ก ๆ เวลาเล่นประทัดกัน ถึงเวลาจุดจะไปเก็บเอานัดที่ไม่ระเบิดมา เพราะว่าไส้ประทัดบางอันเขาใส่ดินปืนไม่ต่อเนื่องกัน เวลาจุดเท่ากับไหม้กระดาษเปล่า ๆ เด็ก ๆ ก็เก็บมาจุดเล่นกัน จุดเฉย ๆ ไม่สนุก ก็ใช้วิธีกอบดินขึ้นมาเอาประทัดเสียบไว้ เอากะลาครอบแล้วจุด เวลาระเบิดแล้วกะลาจะลอยสูงดี
มีพวกวิตถารกว่านั้นอีก เอายัดใส่ปากคางคกแล้วก็จุด..! คางคกไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย อยู่ ๆ ก็โดนจนไส้ไหลลิ้นห้อย เวลาเด็ก ๆ เล่นจะนึกถึงแต่ความสนุกอย่างเดียว ไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่น ฉะนั้น..ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่า การทำอะไรพิลึกพิลั่น บางทีก็ทำให้คนอื่นสัตว์อื่นเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว
กว่าจะรู้บุญรู้บาปก็ต้องผ่านการอบรมสั่งสอนมาระยะหนึ่ง แต่เด็กสมัยก่อนรู้บุญรู้บาปง่ายเพราะอยู่ใกล้วัด สมัยหลังพอเขาแยกโรงเรียนกับวัดออกจากกันก็แทบจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วยิ่งโดนตัดหลักสูตรศีลธรรมออกไปก็ยิ่งบรรลัยใหญ่ สมัยที่โดนตัดหลักสูตรศีลธรรมออกไป เพราะรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการท่านเป็นคริสต์..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 03:08
|