พระอาจารย์เล่าว่า "มีหนังสือขอความร่วมมือจากกระทรวงวัฒนธรรม ขอวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของแต่ละจังหวัด นำไปจำหน่ายเพื่อหารายได้เข้าสภากาชาดไทย อาตมาก็เลยบอกว่าวัตถุมงคลของอาตมายังไม่ใช่หรอก เพราะว่ายังไม่มีชื่อเสียง แต่แหม..เขารู้ได้อย่างไร เล่นจิกมาตรงตัวเลย
ต่อไปจะมีพวกที่น่ารำคาญยิ่งกว่านั้น ก็คือพวกที่มาขอความช่วยเหลือแบบไม่ดูเวล่ำเวลา ไปนึกถึงครูบาเทืองสมัยรุ่ง ๆ ท่านต้องติดป้ายไว้เลย “ใครมาขอ ครูบาให้ทั้งนั้นแต่ไม่จ่าย ใครมานิมนต์ ครูบารับทั้งนั้นแต่ไม่ไป” ติดป้ายไว้อย่างนั้นเลย เพราะท่านโดนแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น จนกระทั่งท่านเข็ด ต้องติดป้ายไว้ให้เห็น ๆ
เมื่อเช้าอาตมาไปนิมนต์หลวงพ่อพระครูสิริบุญโสภิต เจ้าอาวาสวัดใหม่ยายนุ้ยมาสวดมนต์ฉันเพลวันที่ ๒๙ นี้ ไปเจอลูกศิษย์ท่านกำลังตื๊อจะเอากุมารทอง ท่านมีกุมารทองอยู่ ๒ ตัว เป็นกุมารรุ่นหนึ่งของหลวงปู่แย้ม วัดสามง่าม ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านเอง
ลูกศิษย์เข้าไปเห็นกุมารทองหายไปตัวหนึ่ง เขาคร่ำครวญหวนโหยจะขาดใจตาย บอกว่า “หายไปได้อย่างไร เพราะฉะนั้น..ตัวนี้ผมเอาแล้ว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหายอีก" ประเภทนี้ถ้ามาคร่ำครวญใกล้ ๆ อาตมารับรองว่าได้ทันที..! วัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ท่านให้ไว้ โดยเฉพาะรุ่น ๑ ก็เหมือนกับของแทนตัว ยังจะไปตื๊อจะเอาให้ได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 02:57
|