พระอาจารย์เล่าว่า "พวกชนกลุ่มน้อยอย่างกะเหรี่ยง มอญ ทวาย เขาจะขี้กลัวกว่าเรา อย่างท่านโมเช่เขาเก่ง แค่ตวาดทีเดียวควายทั้งฝูง ๒๐ - ๓๐ ตัวยืนนิ่งเป็นตุ๊กตาหมดเลย แต่ท่านจะหนีท่าเดียว พอเห็นอาตมาไม่หนีก็ถึงได้แสดงฝีมือออกมาให้เห็น พูดง่าย ๆ ก็คือ "หนีไว้ก่อนพ่อสอนไว้"
นี่ท่านโมเช่หายไป ๒ ปี เพิ่งจะกลับมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้ามไปสร้างเจดีย์ที่พม่าเสร็จไปอีกหนึ่งหลัง บอกแล้วว่าถ้าท่านขาดเงินเมื่อไรก็จะมาหา น่ารักมาก แล้วรู้ด้วยว่าถ้ามาแล้วอาตมาจะมีให้ ตรงนี้ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ เพราะท่านไปไหนจะถามเทวดาก่อน "ไปตอนนี้ อาจางมีเงินหรือเปล่า ?" เทวดาก็ระยำ..มาแอบดูบัญชีของอาตมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ?
ท่านเป็นคนเก่งที่ไม่ยอมสู้ใคร ไม่แสดงฝีมือโดยไม่จำเป็น มีอยู่อย่างหนึ่ง ถ้าคนรู้จักสังเกตก็คือ แกเป็นคนที่ไม่สะทกสะท้านต่อทุกสังคม พาขึ้นเครื่องบินแกก็ขึ้น คุณแดงของเราพาท่านโมเช่ไปไหนรู้ไหม ? ไปวัดท่าซุง คนเป็นแสน ๆ คน ท่านโมเช่แต่งตัวเป็นฤๅษี นุ่งเสื้อเก่า ๆ ผ้าเก่า ๆ สะพายย่าม ส่วนคุณแดงตอนนั้นใส่เสื้อกล้ามนุ่งกางเกงแม้ว สองสหายก็เดินทั่ววัด ไม่ได้สนใจใครหรอก เดินจนทั่ววัดแล้วก็มายืนบ่น "อาจาง..วัดท่าซุงคงเยอะจัง" เขาไม่เคยเห็นงานวัดที่มีคนเป็นแสน ๆ คนขนาดนั้น
ได้เห็นอย่างนั้นถึงรู้ว่าสภาพจิตใจจริง ๆ ของท่านโมเช่มั่นคงมาก ไม่รู้สึกประหม่ากับคนมากขนาดนั้น แล้วไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกด้วย เห็นเป็นธรรมดาหมดเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 21-03-2012 เมื่อ 21:27
|