อาตมาบอกกับมารไปว่า "ถ้าโลกนี้ไม่มีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า กูจะยอมไหว้มึง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ตอนนี้เอ็งมาข้าสู้..!" แต่สู้กับเขา..ขอโทษเถอะ ประตูชนะแทบจะไม่มีเลย จะแผ่เมตตาให้ กำลังเราก็ไม่เท่าพระพุทธเจ้า ระดับพระพุทธเจ้าเขายังไม่รับเลย แล้วจะไปใช้กำลังอภิญญาสมาบัติอะไรก็ไม่ไหว เพราะเขาถนัดกว่าเราเยอะเลย
เขาอยู่ในเขตของความเป็นทิพย์ เรื่องพวกนี้เขาชำนาญคล่องตัวกว่าจนนับไม่ได้ เลยอยู่ในลักษณะที่สู้ก็ไม่ได้ หนีก็ไม่ได้ ตื๊อกันจนวินาทีสุดท้าย มีปัญญาตีก็ตีไป เราอึดให้ได้ก็แล้วกัน ท้ายที่สุดหลังจากฟาดกันอยู่เป็นอาทิตย์ เขาก็รามือถอยไปเอง เพราะหมดวาระแล้ว และอาตมาไม่ยอมแพ้สักที
เรื่องพวกนี้ปกติไม่น่าเล่าให้คนอื่นฟัง แต่ว่าใครสักคนหนึ่งที่ถ้ามีวาสนาบารมีทางด้านนี้ ก็คือสามารถรู้เห็นเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ได้อย่างชัดเจน ถ้าเขามาข่มขู่ในลักษณะนี้ให้รู้ไว้ว่า เขาทำเราให้ตายไม่ได้..ในเมื่อเขาทำเราให้ตายไม่ได้ก็ไม่ต้องไปกลัวเขา เขาจะกลั่นแกล้ง จะทุบตี จะฆ่าฟัน หวดเราจมดินลงไปเป็นกิโลเมตรก็ช่างเถอะ ตื๊อสู้เขาอย่างเดียว เพราะถ้าเขาทำเราตายเท่ากับผิดกฎ เขาได้แต่ข่มขู่ให้เราเลิกปฏิบัติความดีเท่านั้น
นี่อาตมาเปิดเผยความลับมากไปเดี๋ยวก็โดนอีก ในเมื่อทำเราให้ตายไม่ได้ ไม่ตายซะอย่าง ไม่ต้องกลัวหรอก เจ็บแค่ไหนก็ทนได้ สมัยก่อนเขาบอกว่า "ศรีทนได้" ถ้าใครมีวาสนามาทางนี้ ตื๊อไปเลย ยื้อเข้าไว้ เดี๋ยวเขาเบื่อหน่ายหรือหมดวาระเขาก็เลิกไปเอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-03-2012 เมื่อ 02:40
|