"พอมาระยะหลังเขาจะมาหาปลาตอนพระออกบิณฑบาต มีเส้นมีสายดูด้วยนะ พอพระเดินเลยคลองยางเมื่อไรเขาก็เริ่มลงมือเลย เขาจะวิ่งเรือเข้ามาถึง วางข่ายลอยซึ่งเป็นข่ายที่มีลูกทุ่นลอยอยู่ด้วย พอวางลงเขาก็เก็บขึ้นเลย
วันนั้นอาตมากระซิบบอกเจ้าวิม ซึ่งเป็นคนขับรถของหลวงพ่อท่านว่า “มึงเอาเรือไปซ่อนไว้ในคลองที” เขาถามว่า “แล้วหลวงพี่จะมาทางด้านไหน ?” อาตมาบอกว่า “เดี๋ยวกูจะเดินลงข้างคลองไป” อาตมาเองก็เดินบิณฑบาต เดิน ๆ ไปพอข้ามคลองยาง รีบส่งบาตรให้รุ่นน้อง บอกว่า "คุณไปต่อ ผมมีงาน.." แล้วก็เดินกลับไป พอเรือพุ่งปราดออกไป เขาลงข่ายพอดีเลย คราวนี้เก็บไม่ทันสิเพราะเป็นข่ายลอย อาตมาก็สาวขึ้นมาแทน ไม่น่าเชื่อว่าแค่ ๕ นาทีได้ปลาเป็นลำเรือเลย หน้าวัดมีปลาเยอะขนาดนั้น
หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนแผนใหม่ พอได้ยินเสียงตีกลองเพลก็ลงข่าย เพราะรู้ว่าพระฉันเพลอยู่ ทั้งวัดฉันพร้อมกัน พวกนี้เขารู้วัตรปฏิบัติของพระ จะสร้างบุญสร้างกุศลตอนไหนเขารู้หมด แต่เขาสร้างบาปอย่างเดียวเลย..! อาตมาก็ไม่ฟังเสียง พอได้ยินรีบวางช้อน บอกพระผู้ใหญ่ว่า “ขอเวลาผมเดี๋ยวหนึ่ง ได้ยินอะไรไม่ต้องตกใจ”
แล้วรีบเผ่นขึ้นไปชั้นบนของตึกรับแขก บอกทหารว่า “ยืมปืนกูหน่อย..!” ยิงกราดทีเดียวหมดแม็กเลย พวกนั้นเผ่นกันอุตลุต อาตมายิงขู่เขา แต่ยิงขู่นี่ต้องยิงเป็นนะ ถ้าใช้อาวุธไม่เป็นจะตายเอาจริง ๆ คราวนี้อาตมาฝึกการยิงมาครึ่งชีวิต วิชาฆ่าคนจึงไม่ยากสำหรับอาตมา กราดไปอย่างกับฝนตกรอบเรือเลย พวกนั้นกระชากเครื่องเผ่นกันแทบไม่ทัน พอโดนเข้าแบบนี้เขาถึงจะยอมกลัว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2012 เมื่อ 15:05
|