"เท่าที่อ่านพระไตรปิฎกมา มีสามัญญผลสูตรที่พระพุทธเจ้าท่านเทศน์แล้วไม่มีบุคคลได้มรรคผล เพราะว่าเทศน์โปรดพระเจ้าอชาตศัตรูที่จิตใจวุ่นวาย เครียดที่ตัวเองทำปิตุฆาต คือฆ่าพ่อ แย่งชิงพระราชสมบัติ พระพุทธเจ้าได้สร้างความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาให้เกิดขึ้นแก่พระเจ้าอชาตศัตรู พระเจ้าอชาตศัตรูก็เลยปวารณาอุปถัมภ์ค้ำจุนพระพุทธศาสนา จนกระทั่งเป็นผู้สนับสนุนการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ ๑
ถ้าจะเอาเรื่องของมรรคผล สามัญญผลสูตรเป็นพระสูตรที่เทศน์แล้วไม่มีผู้ได้มรรคผล แต่ว่าทำให้เกิดความเลื่อมใส ปฏิญาณตนถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
ส่วนพระสูตรที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศน์แล้วได้มีผู้ได้มรรคผลมากที่สุด ก็น่าจะเป็นพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ เทศน์แล้วพรหมเทวดาบรรลุมรรคผล ๘๐ โกฏิ ถ้าเอาตัวเลขตามหลักบาลีคือ ๘๐๐ ล้าน เพราะ ๑๐ ล้านเท่ากับ ๑ โกฏิ
สมัยก่อนเขาถือว่าพระอภิธรรมเป็นคำสอนที่เป็นมงคลอย่างยิ่ง ดังนั้น..จึงมีการสวดสาธยายพระอภิธรรมในงานขึ้นบ้านใหม่ ในงานแต่งงาน ในงานมงคลอื่น ๆ แต่พอมาระยะหลังเอาพระอภิธรรมไปสวดในงานอวมงคล ก็คืองานศพ ทำให้เกิดพวกจิตอ่อน กลัวว่าถ้าเอามาสวดสาธยายในงานมงคลแล้วจะทำให้ไม่ดี จึงต้องมีการเปลี่ยนมาสวดสาธยาย ๗ ตำนาน หรือ ๑๒ ตำนานในงานมงคล แล้วก็ไปสวดสาธยายพระอภิธรรมในงานอวมงคลหรืองานศพแทน จากของดีแต่เพราะความเชื่อของคนทำให้กลายเป็นของไม่ดีไปได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-02-2012 เมื่อ 15:49
|