พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน อะไรเป็นผู้นึก ผู้จำกิจการที่ได้ทำ หรือคำที่ได้พูดไว้ให้อยู่คงนานได้
พระนาคเสนทูลตอบว่า ขอถวายพระพร สติ
ม. มิใช่จิตหรือพระคุณเจ้า
น. หากยังสงสัย ขอพระองค์ตั้งพระราชหฤทัยนึกถึงพระราชกรณียกิจ ซึ่งได้ทรงไว้นานมาจนจำไม่ได้แล้ว เพื่อทดลองดูว่าจะทรงนึกขึ้นได้หรือไม่
ม. เมื่อนานจนจำไม่ได้แล้ว จะนึกขึ้นได้อย่างไรเล่าพระคุณเจ้า
น. ก็ในขณะทดลองนี้ พระองค์ไม่มีพระหฤทัยซึ่งเป็นจิตใจหรือ
ม. มีสิพระคุณเจ้า
น. ขอถวายพระพร ด้วยเหตุนี้ อาตมภาพจึงทูลว่าสติเป็นผู้นึก ผู้จำ ผู้สาวเอากิจการที่ล่วงมาแล้วให้ปรากฏขึ้นได้ (จิรกตสรณปัญหา)
ม. สตินั้นเกิดขึ้นเองหรือเกิดขึ้นต่อเมื่อมีคนเตือน
น. เกิดขึ้นได้ทั้งสองทาง (สติอิชานนปัญหา) หรือหากแจกแจงโดยพิสดาร สติเกิดขึ้นได้โดยอาการ ๑๗ ได้แก่
๑. เกิดจากความรู้
๒. เกิดจากการทำเครื่องหมายไว้
๓. เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสถานะ ซึ่งทำให้ระลึกถึงสถานะเดิม
๔. เกิดจากการได้รับความสุข ซึ่งทำให้นึกไต่สวนเหตุที่มา
๕. เกิดจากการได้รับความทุกข์ ซึ่งทำให้นึกไต่สวนเหตุที่มา
๖. เกิดจากการเห็นสิ่งที่คล้ายแล้วเตือนให้จำ หรือระลึกถึงอีกสิ่งหนึ่งได้
๗. เกิดจากการรู้เห็นสิ่งตรงข้าม
๘. เกิดจากการได้รับคำตักเตือน
๙. เกิดจากตำหนิในลักษณะ
๑๐.เกิดจากการนึกขึ้นได้โดยธรรมดา
๑๑.เกิดจากการกำหนดจำธรรมดา
๑๒.เกิดจากการพินิจพิเคราะห์
๑๓.เกิดจากการนับจำนวนไว้
๑๔.เกิดจากการอบรมสติ
๑๕.เกิดจากการบันทึก
๑๖.เกิดจากการเก็บไว้
๑๗.เกิดจากการได้ประสบสิ่งที่เคยประสบพบเห็น(สติอาการปัญหา)
ม. ช่างมากอย่างพิสดาร
|