ดูแบบคำตอบเดียว
  #158  
เก่า 25-01-2012, 08:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,385
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,235 ครั้ง ใน 35,987 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ค่อย ๆ แยกแยะดูแล้วจะเห็นอย่างชัดเจน ว่าตัวผู้รู้ก็คือตัวผู้รู้ ตัวรับรู้ก็คือตัวรับรู้ บางทีภาษาบาลีเขาจะแยกชัด เป็นจิตกับชวนะ แต่ภาษาไทยบางทีก็สับสนปนเปกัน

สรุปว่าของที่ละเอียดเกินไป อย่าเพิ่งไปใส่ใจ แค่ตัวกูพยายามให้เห็นว่าไม่ใช่กูไว้ก่อน พอตัวกูไม่ใช่กูแล้วคนอื่นย่อมไม่ใช่ของกูเหมือนกัน เดี๋ยวก็จะเห็นกว้างไปเรื่อย ๆ ถ้าหากว่ากำลังพอ จิตก็จะยอมรับตรงนั้นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรยึดมั่นถือมั่นจริง ๆ

เรื่องของการปฏิบัติมีอยู่ระยะหนึ่งที่พึงระวังสุดขีดก็คือ ญาณเครื่องรู้เกิดขึ้น จะเกิดความแตกฉาน ขบคิดอะไรก็เข้าใจไปหมด เห็นความสอดคล้องสัมพันธ์ของทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหมด ไม่ว่าจะหัวข้อธรรมไหนก็เห็นว่าเกี่ยวโยงกันหมด แต่จุดที่สำคัญจริง ๆ ก็คือ สิ่งที่เรารู้มีส่วนในการตัดกิเลสของเราไหม ?

ไม่ใช่ว่ารู้ทุกเรื่องแต่เรื่องตัดกิเลสไม่รู้เลย แต่ว่าส่วนใหญ่ก็มักโดนหลอกให้หลงไปในแนวนั้น แนวที่ว่ารู้ทุกเรื่อง ยิ่งคิดยิ่งสนุก ยิ่งคิดยิ่งแตกฉาน จะสร้างยานอวกาศออกไปต่างดาวยังได้เลย แต่เรื่องตัดกิเลสกลับไม่รู้ เป็นเรื่องที่จะต้องระวังให้จงหนัก ถ้าหากว่ายังไม่ถึงตรงระดับนี้ ถึงหลงก็ยังไปไม่ไกล แต่ถ้าโผล่ไปถึงระดับนี้แล้วหลงไกลแน่ เพราะจะถูกพาเตลิดเปิดเปิงไปเรื่อย จนออกทะเลหาฝั่งไม่เจอ

คิดเรื่องอะไรก็เข้าใจไปหมด เป็นส่วนของจินตามยปัญญาคือขบคิดแล้วเข้าใจ ยังไม่ใช่ภาวนามยปัญญา คือปัญญารู้แจ้งเห็นจริงแล้วปล่อยวางได้


ถาม : อย่างนี้ต้องมีสติมากเลยสิครับ ?
ตอบ : ใช่...ถ้าไม่มีสติก็ไปไม่รอดอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่า ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ต้องไปด้วยกัน ขาดสติเมื่อไรก็ถูกกิเลสพาไปไกลลิบเลย แล้วหลายคนก็อยู่ในอาการเฟื่องไปเลย ก็คือไปพูดเรื่องที่มนุษย์ทั่ว ๆ ไปไม่รู้ แบบสมัยก่อนคุณกมลที่มาที่นี่ นั่นถึงขนาดจะไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร อาตมาก็เลยช่วยบอกเขาว่า ต้องทำอย่างไรถึงจะอยู่บนดาวอังคารได้จริง ๆ สนุกกันใหญ่ ไหน ๆ เขาจะไปแล้ว ก็ช่วยบอกให้เขาไปถูกทางหน่อย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2012 เมื่อ 09:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา